• 22 พฤศจิกายน 2024
  • Thailand

“ศุภาลัย” เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 64 รายได้รวม 11,000 ลบ.

“ศุภาลัย”  เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 64  รายได้รวม 11,000 ลบ.

“ศุภาลัย” เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 64 ยอดขาย 13,005 ลบ. รายได้รวม 11,000 ลบ.เตรียมแผนรุกตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง เปิดโครงการใหม่รวม 22 โครงการ ตั้งเป้าหมายยอดขาย 27,000 ลบ.

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในรอบครึ่งปีแรก 2564 บริษัทฯ ได้ก้าวผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ที่สำคัญที่เกิดขึ้นและมีความท้าทายเป็นอย่างมาก ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 อันยาวนาน ซึ่งบริษัทฯ มีการวางแผนและปรับตัวอย่างรวดเร็วให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ควบคู่การมีมาตรการความปลอดภัยด้านชีวอนามัยให้ลูกค้าและดูแลคนงานด้วยมาตรการควบคุมโรคในแคมป์คนงานอย่างเข้มงวด แม้กระทั่งการงดเว้นหรือลดค่าเช่าให้ผู้เช่าของศุภาลัยที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก นอกจากนี้ยังมีการช่วยเหลือลูกค้าโครงการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โรงงานระเบิด ซึ่งเรื่องราวต่างๆ ดังกล่าวถือเป็นสิ่งท้าทายของบริษัทฯ จึงมีการปรับแผนการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ผ่านมา แต่บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายด้านยอดขายและรายได้ที่ตั้งไว้เมื่อต้นปี 2564 เช่นเดิม

โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีการเปิดตัวโครงการใหม่แล้ว ทั้งหมด 9 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการแนวราบในพื้นที่กรุงเทพฯ และภูมิภาค รวมเป็นมูลค่า 9,180 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทฯ สามารถทำยอดขายอยู่ที่ 13,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 โดยมาจากการตอบรับที่ดีของลูกค้าในทุกทำเลโครงการที่มีสินค้าสร้างเสร็จ พร้อมอยู่ รวมถึงโครงการที่เปิดตัวใหม่ ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายในส่วนโครงการแนวราบ  10,080 ล้านบาท คิดเป็น 78%  โครงการคอนโดมิเนียม 2,925 ล้านบาท คิดเป็น 22% และคิดเป็น 48% จากเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ 27,000 ล้านบาท  อีกทั้งสามารถสร้างรายได้รวม 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% โดยรายได้หลักมาจากการทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ขณะที่รายได้จากอสังหาริมทรัพย์สามารถแบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวราบ 57% และจากโครงการคอนโดมิเนียม 43% ถึงแม้ว่าตลาดกลุ่มคอนโดมิเนียมจะยังคงชะลอตัว






บริษัทฯ สามารถทำผลงานด้านกำไรสุทธิ 2,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 โดยมีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 58% ส่วนต้นทุนการเงินที่อัตราเฉลี่ย 1.80 % ต่อปี ณ 30 มิ.ย. 2564 และมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 36,002 ล้านบาท ณ 30 มิ.ย. 2564 โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าและรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564 จำนวน 14,202 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 21,800 ล้านบาทในอีก 3 ปีถัดไป เพื่อรองรับการเติบโตด้านรายได้ของบริษัทในอนาคต พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังเดินหน้าลงทุนในทำเลใหม่ๆ ที่จะขยายตลาดให้กว้างขึ้น เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 24 ส.ค.2564 และจ่ายปันผล วันที่ 8 ก.ย. 2564


สำหรับแผนงานครึ่งปีหลัง 2564 บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นการเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม รวม 22 โครงการ มูลค่า 24,820 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ จำนวน 18 โครงการ และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ พร้อมทั้งเดินหน้าสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อให้ทันสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ และเพิ่มช่องทางการตลาดในรูปแบบ Virtual Tour รับชมโครงการเสมือนจริง และ Online Booking จองยูนิตที่สนใจ เพิ่มความสะดวก สบาย ปลอดภัย  และรูปแบบ Supalai Private Tours  เป็นการสื่อสารและชมโครงการได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อลดการสัมผัสให้เหมาะสมกับเหตุการณ์โควิด -19










รวมถึงกระบวนการก่อสร้าง  โดยเน้น Waste  Management  เพื่อมีส่วนร่วมในการลดขยะให้สังคม และมีการปรับเปลี่ยนระบบด้านการบริการลูกค้าในรูปแบบออนไลน์  ทั้งใบเสร็จออนไลน์  และนิตยสารขององค์กรในรูปแบบ E-Magazine เพื่อเชิญชวนครอบครัวศุภาลัย รักษ์โลก ลดการใช้กระดาษ ลดการสัมผัส สอดรับกับโครงการ Supalai Care The Bear ผนึกพลังร่วมกันลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ ทั้งทรู เฮลท์ จากบริษัท ทรู ดิจิทัล เพื่อพบหมอออนไลน์ บริษัท ซีเนริโอ จำกัด เพื่อผลิตซีรีส์  อีกทั้งบ้านและสวน เพื่อแชร์ไอเดียใหม่ๆ สำหรับลูกค้าที่จะนำไปตกแต่งสวนสวยงามให้ที่อยู่อาศัย


บริษัทฯ มั่นใจว่าปี 2564 จะเป็นปีที่บริษัทฯ มีการเติบโตทางด้านรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่องด้วยความพร้อมทางต้นทุนทางการเงิน การบริหารความเสี่ยง การตลาดและการขาย การบริการลูกค้า และการมีส่วนร่วมช่วยเหลือเพื่อสังคม ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยภายนอก โดยมองว่า ภาพรวมการเติบโตของบริษัทฯจะมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังสถานการณ์โควิด -19 คลี่คลายต่อไป