ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ฯ เผยตัวเลขตลาดบ้านมือสองทั่วประเทศ มี Supply เสนอขายเฉลี่ยเดือนละ 113,000 หน่วย มูลค่าเฉลี่ย 842,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท มีสัดส่วนมากที่สุดเฉลี่ย 61% ของมูลค่าทั้งหมด สวนทางกับด้าน Demand พบจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์บ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มีสัดส่วนมากที่สุดเฉลี่ย 32% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ศขอ.) ได้จัดเก็บข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ จากการประกาศขายผ่านเว็บไซต์ของบริษัทภาคเอกชนที่มีปริมาณการประกาศขายเป็นจำนวนมาก ในไตรมาส 4 ปี 2563 รวมกับข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองของสถาบันการเงินของรัฐ บริษัทบริหารสินทรัพย์ภาครัฐ และ กรมบังคับคดี ฯลฯ ที่ประกาศขายผ่านเว็บไซต์ตลาดนัดบ้านมือสอง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองเพิ่มมากขึ้น
ภาพรวมที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ ที่ประกาศขายผ่านเว็บไซต์บริษัทภาคเอกชนและเว็บไซต์ ตลาดนัดบ้านมือสอง ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2563 พบว่า มีจำนวนหน่วยเสนอขายเฉลี่ยเดือนละ 113,211 หน่วย และมีมูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 842,253 ล้านบาท สำหรับเดือนที่มีการประกาศขายที่อยู่อาศัยมือสองมากที่สุด ได้แก่ เดือนตุลาคม ซึ่งมีจำนวน 115,454 หน่วย มูลค่า 873,567 ล้านบาท และเดือนที่มีการประกาศขายน้อยที่สุด ได้แก่ เดือนธันวาคม ซึ่งมีจำนวน 111,350 หน่วย มูลค่า 768,892 ล้านบาท
ประเภทที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายบนเว็บไซต์ในไตรมาส 4 ปี 2563 ในด้านจำนวนหน่วย บ้านเดี่ยว/บ้านแฝดจะมีสัดส่วนการประกาศขายมากที่สุด รองลงมาเป็น อาคารชุด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ ตามลำดับ ในด้านมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายบนเว็บไซต์ในไตรมาส 4 ปี 2563 พบว่า บ้านเดี่ยว/บ้านแฝด มีสัดส่วนมากที่สุด โดยอาคารชุด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ มีสัดส่วนมูลค่ารองลงมาในด้านทำเลที่ตั้งของที่อยู่อาศัยมือสองที่มีการประกาศขายมากที่สุดในไตรมาส 4 ปี 2563 จะอยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยมีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือน 49,369 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ย ร้อยละ 43.6 ของจำนวนหน่วยบ้านมือสองทั่วประเทศ และมีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือน 499,839 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ย ร้อยละ 59.5 ของมูลค่าบ้านมือสองทั่วประเทศ ในขณะที่จังหวัดที่มีจำนวนหน่วยและมูลค่ามากที่สุดเป็นลำดับ 2 – 10 จะมีสัดส่วนของแต่ละจังหวัดไม่ถึงร้อยละ 10
จังหวัดที่มีสัดส่วนจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายมากที่สุดในลำดับ 2 – 10 ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี ชลบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต ระยอง และนครปฐม ตามลำดับ ซึ่งจะเห็นได้ว่าจังหวัดที่มีจำนวนหน่วยประกาศขายมากจะอยู่ในจังหวัดปริมณฑล (ยกเว้นสมุทรสาครไม่ติดอันดับ) และจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลักและมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก
ส่วนจังหวัดที่มีสัดส่วนมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายมากที่สุดในลำดับ 2 – 10 ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรปราการ ภูเก็ต ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี และนครราชสีมา ตามลำดับ โดยจังหวัดที่ติดอันดับมีสัดส่วนมูลค่ามากที่สุดเพิ่มเติมมา ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) และนครราชสีมา (ปากช่อง-เขาใหญ่) ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลักและมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก
อยู่อาศัยมือสองทุกประเภทที่มีการประกาศขายในไตรมาส 4 ปี 2563 มีจำนวนหน่วยมากที่สุดในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท โดยมีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือน 22,717 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 20.1 รองลงมาจะอยู่ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายเฉลี่ยต่อเดือน 19,689 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 17.4 ส่วนระดับราคาที่มีสัดส่วนน้อยที่สุด จะอยู่ในระดับราคา 7.51 – 10.00 ล้านบาท โดยมีจำนวนหน่วยขายเฉลี่ยต่อเดือน 7,327 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 6.5
เมื่อพิจารณาระดับราคาของที่อยู่อาศัยที่ประกาศขายแยกตามประเภทที่อยู่อาศัย พบว่า อาคารชุดและอาคารพาณิชย์ มีหน่วยขายในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท มากที่สุด ในขณะที่บ้านเดี่ยว/บ้านแฝดมีจำนวนหน่วยขายมากที่สุดในระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป และทาวน์เฮ้าส์มีจำนวนหน่วยที่ประกาศขายมากที่สุดในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท
ที่อยู่อาศัยมือสองรวมทุกประเภทที่ประกาศขาย มีมูลค่ามากที่สุดอยู่ในระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป โดยมีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนจำนวน 514,916 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยต่อเดือนสูงถึงร้อยละ 61.0 รองลงมาคือระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท และระดับราคา 5.01 – 7.50 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันคือร้อยละ 10.7 และ ร้อยละ 10.1 ตามลำดับ ส่วนระดับราคาที่มีมูลค่าน้อยที่สุดคือระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนเพียงร้อยละ 0.6 เมื่อพิจารณามูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขาย แยกตามประเภท พบว่า ทุกประเภท มีมูลค่าที่ประกาศขายมากที่สุดในระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไปเช่นเดียวกัน
การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสอง หากพิจารณาข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในไตรมาส 4 ปี 2563 (ตุลาคม – ธันวาคม) เปรียบเทียบกับข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองในแต่ละเดือน จะพบว่า ที่อยู่อาศัยมือสองมีจำนวนหน่วยที่ประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือน เท่ากับ 113,211 หน่วย ในขณะที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองเฉลี่ยต่อเดือน เท่ากับ 12,417 หน่วย ทั้งนี้ จำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองเปรียบเทียบกับจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในแต่ละเดือน คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 10.9 ต่อเดือน
ที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในไตรมาส 4 ปี 2563 มีมูลค่าเฉลี่ย 842,253 ล้านบาทต่อเดือน ในขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสอง มีมูลค่าเฉลี่ย 25,743 ล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองเปรียบเทียบกับมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในแต่ละเดือน คิดเป็นสัดส่วนที่ไม่สูงมากนัก เฉลี่ยเพียงร้อยละ 3.1 ต่อเดือน เปรียบเทียบระดับราคาที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายและการโอนกรรมสิทธิ์
ที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในไตรมาส 4 ปี 2563 มีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือนมากที่สุดในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท รองลงมาคือระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท และระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป ตามลำดับ ในขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองในไตรมาส 4 ปี 2563 จะมีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือนมากที่สุดในระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 32.0 ของหน่วยโอนทั้งหมดต่อเดือน รองลงมาคือระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนหน่วยใกล้เคียงกับระดับราคา 1.51-2.00 ล้านบาท และ 1.01-1.50 ล้านบาท มูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในไตรมาส 4 ปี 2563 มีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนมากที่สุดในระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป ในขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองในไตรมาส 4 ปี 2563 จะมีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาทมากที่สุด