• 23 พฤศจิกายน 2024
  • Thailand

แสนสิริ สรุปผลงานรอบ 9 เดือน ยอดโอนรวม 34,700 ล้านบาท โตจากปีก่อน 122%

แสนสิริ สรุปผลงานรอบ 9 เดือน ยอดโอนรวม 34,700 ล้านบาท โตจากปีก่อน 122%

แสนสิริ สรุปผลงานรอบ 9 เดือน 2563 ยอดโอนรวม 34,700 ล้านบาท โตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 122% จากเป้าโอน 42,000 ล้านบาท

นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในรอบ 9 เดือน โดยสร้างผลงานปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัยไปถึง 30 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 58,200 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีผลงานการโอนที่โดดเด่นทั้งในแนวราบและแนวสูง โดยล่าสุดบริษัทมียอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จสมบูรณ์และส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้วถึง 34,700 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นยอดการโอนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของแสนสิริ เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 122% และคิดเป็น 83% จากเป้าโอน 42,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดโอนจากโครงการแนวราบ 14,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 83% จากเป้ายอดโอนแนวราบที่ตั้งไว้ 17,500 ล้านบาท ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมมียอดโอนล่าสุดสูงถึง 20,200 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 211% และคิดเป็น 82% จากเป้าโอนคอนโดมิเนียมที่วางไว้ 24,500 ล้านบาท ผลงานมาจากการโอนคอนโดมิเนียม อาทิ โครงการเดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ, คาวะ เฮาส์, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101, เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์ และ เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง เป็นต้น

นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทยังมีแผนโอนคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ อีก 4 โครงการได้แก่ XT เอกมัย, โอกะ เฮาส์, ดีคอนโด ธาร จรัญฯ โดยล่าสุดบริษัทยังได้เตรียมเปิดโอนส่งมอบโครงการ     “ลา ฮาบานา” (La Habana) หัวหิน คอนโดมิเนียมตากอากาศพร้อมอยู่ล่าสุดของแสนสิริในหัวหิน มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท ที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายโครงการไปแล้วถึง 80% จากความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริในทำเลหัวหิน ทั้งนี้ แสนสิรินับเป็นผู้บุกเบิกและเป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมตากอากาศในหัวหินมาอย่างยาวนานเป็นระยะเวลากว่า 36 ปี เปิดตัวโครงการแรก คือ  “บ้านไข่มุก” หัวหิน ในปี 2534 จากนั้นเป็นต้นมา แสนสิริประสบความสำเร็จจากการพัฒนาและปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศในทำเลชะอำ-หัวหินไปแล้วกว่า 23 โครงการ รวมถึงโรงแรม 1 แห่ง ทั้งนี้ บทพิสูจน์ความสำเร็จของแสนสิริในทำเลหัวหิน ได้แก่ บ้านไข่มุก แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมตากอากาศระดับลักซ์ชัวรีแห่งแรกของแสนสิริ โครงการยังคงมูลค่าสูงจนถึงปัจจุบันโดยมีราคาขายเปลี่ยนมือล่าสุดอยู่ที่ 80 ล้านบาท นอกจากนี้ยังประกอบด้วยโครงการที่ประสบความสำเร็จตามมาอีกหลายโครงการ รวมถึง “ลา กาซิตา” (La Casita) คอนโดฯ ตากอากาศพร้อมอยู่สไตล์สแปนิชใจกลางเมืองหัวหิน มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดี กับยอดโอนกว่า 90% จากยอดขายลูกค้าชาวต่างชาติทั้งหมด

สำหรับคอนโดมิเนียมตากอากาศล่าสุดของแสนสิริในหัวหิน “ลา ฮาบานา” เป็นรีสอร์ทคอนโดมิเนียม เพียง 250 เมตรจากชายหาด นับเป็นจุดที่ชายหาดสวยที่สุดจากการแวดล้อมไปด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาว ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมความสูง 8 ชั้น 3 อาคาร รวมทั้งสิ้น 652 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ สร้างความ      ตื่นตาตื่นใจตอบโจทย์การพักผ่อนคลายร้อนด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่เกือบ 1,000 ตร.ม. บนพื้นที่ส่วนกลางรวมกว่า 6,000 ตร.ม. ในราคา 2.39 – 10 ล้านบาท เพิ่มความสุขสนุกสนานของครอบครัว ผ่านทุก ๆ ส่วนของโครงการด้วยคอนเซปต์ The Happy Colors of Hua Hin จากแรงบันดาลใจที่อยากให้ทุกการพักผ่อนเต็มไปด้วยความสนุกและความสดใส ให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสถึงท้องฟ้าและท้องทะเลของหัวหินในฤดูร้อนอย่างมีสีสัน บนทำเลใจกลางเมืองหัวหิน ติดกับแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งแฮงค์เอาท์ และสิ่งอำนวยความสะดวกของหัวหินมากมาย อาทิ ซิเคด้า มาร์เก็ต, แทมมารีน มาร์เก็ต, บลูพอร์ต หัวหิน, The Peri Hotel (เดอะ เภรี โฮเต็ล) หัวหิน บูทีค โฮเทล โปรเจกต์ล่าสุดภายใต้แบรนด์​ The Standard ผู้นำด้านไลฟ์สไตล์และแบรนด์โรงแรมที่ขยายตลาดสู่ทวีปเอเชียเพิ่มเติมจากสาขาต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายทั่วทั้งทวีปอเมริกาและยุโรป รวมทั้งโรงพยาบาลกรุงเทพฯ ความพิเศษของโครงการลา ฮาบานา คือ การออกแบบโครงการที่แสดงถึงเอกลักษณ์สไตล์ Havana เมืองตากอากาศชื่อดังระดับโลกในประเทศคิวบา ที่สะท้อนแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของสเปน มาประยุกต์ใช้ในส่วนต่าง ๆ ของโครงการได้อย่างลงตัว ทั้งภายในห้องให้มีเรื่องราวของความสนุก ผสานกับการออกแบบด้วยเส้นสายของอาคารที่มีความสนุกสนานและมีชีวิตชีวา สีสันสดใสของกระเบื้องงานคราฟท์ที่ทำขึ้นด้วยมืออย่างประณีตทุกชิ้น ตลอดจนงานเพ้นท์มืออันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมสไตล์ Havana บนกำแพงล็อบบี้และฟิตเนส

“โครงการลา ฮาบานา เหมาะทั้งการซื้อเพื่อพักผ่อนหรือลงทุนขายเปลี่ยนมือ โดยมี Capital Gain อยู่ที่ 5 – 10% ต่อปี เรามองเห็นดีมานด์ทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติ อาทิ ชาวจีนที่มีแนวโน้มมองหาบ้านหลังที่สองในไทยที่มีความปลอดภัยและมีระบบสาธารณสุขที่ดี นอกจากนี้ในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมายังพบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเข้ามาในหัวหินเพิ่มขึ้นประมาณ 6% ต่อปี โดยกลุ่มลูกค้าในสัดส่วนยูนิตที่ขายไปแล้ว 80% เป็นกลุ่มคนไทย 60% และอีก 40% เป็นชาวต่างชาติ ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มลูกค้าชาวจีนในสัดส่วนมากที่สุด ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดโอนส่งมอบโครงการเป็นครั้งแรกในวันที่ 16 – 18 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นที่ช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของโครงการได้ง่ายขึ้น อาทิ โปรไร้ดอก ผ่อนเพียง 2,999 บาท นาน 24 เดือน* แถมเล่นใหญ่ จัดโบนัสให้ไปเต็มๆ สูงสุด 150,000 บาท* ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคมนี้ พร้อมรับประกันสุขภาพจากวิริยะประกันภัย เพื่อชีวิตดีดีของทุกคน กับสิทธิพิเศษ ความคุ้มครองสูงสุดถึง 770,000 บาท ที่โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในเครือ BDMS” นายอุทัย กล่าว