ปลูกมะม่วง 6 สายพันธุ์ยอดฮิตในไทยอย่างไรให้ดูน่ากิน
รู้หรือไม่!!! มะม่วงมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย หลายสายพันธุ์ รสชาติแตกต่างกัน แถมในบ้านเรายังเป็นพืชเศรษฐกิจที่ส่งออกอันดับ 3 ของโลกเลย งานนี้ใครที่เป็นชาวมะม่วงเลิฟเวอร์ ทั้งแบบเปรี้ยวจี๊ด จนถึงหวานเจี๊ยบ ไม่ควรพลาด กับวิธีการปลูกมะม่วงสายพันธุ์ยอดฮิตอย่างไรให้ดูน่ากิน และยังเป็นต้นไม้ประดับบ้าน ลดแสง เสียง รวมถึงเพิ่มออกซิเจนได้อีกด้วย เริ่มที่…
- มะม่วงเขียวเสวย นิยมปลูกกันมาก เพราะเมื่อผลแก่หรือผลห่ามมีรสหวานมันที่อร่อยมากกว่ามะม่วงชนิดอื่นที่ยังดิบอยู่ โดยปลูกตามบ้านเรือนหรือตามหัวไร่ ปลายนา ซึ่งปลูกจากต้นพันธุ์ตอนกิ่งหรือการเสียบยอดเป็นหลัก การดูแล ปล่อยเติบโตด้วยน้ำฝน หากฝนทิ้งช่วงนาน ให้รดน้ำทุกวันหรือวันเว้นวัน หรือฤดูแล้ง ให้น้ำวันเว้นวัน ซึ่ง มะม่วงเขียวเสวยจะมีอายุพร้อมเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมประมาณ 105 วัน หลังดอกบาน หรือประมาณ 90 วัน หลังติดผล
- มะม่วงแรด เป็นมะม่วงที่เจริญเติบโตเร็ว มีลักษณะเป็นพุ่มค่อนข้างทึบ จะปลูกด้วยกิ่งตอน กิ่งทาบ หรือต้นที่เพาะเมล็ด ต้องทำด้วยความระมัดระวัง อย่าให้รากขาดมาก เพราะจะทำ ให้ต้นชะงักการเติบโตหรือตายได้ ให้ปลูกในระยะต้นฤดูฝน ช่วงแรก อาจต้องรดน้ำให้บ้าง เมื่อฝนเริ่มตกหนักแล้วก็ไม่ต้องให้น้ำ จนกว่าผลมะม่วงอายุได้ 70 วัน นับแต่ดอกบานให้ลดปริมาณการให้น้ำลงทีละน้อย จนกว่าผลอายุ 90 วัน หลังจากดอกบาน ระยะเก็บเกี่ยวประมาณ 100-115 วัน
- มะม่วงน้ำดอกไม้ ควรปลูกในสภาพดินดอนไม่มีน้ำท่วมขัง ในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนเมษายน หรือต้นพฤษภาคม เพราะจะช่วยในการขุดหลุมปลูกได้ง่าย ดูแลรักษาปล่อยให้เติบโตตามธรรมชาติเช่นกัน เมื่อออกดอกแล้วใช้เวลารอเก็บผลประมาณ 45 วัน
- มะม่วงอกร่อง เป็นมะม่วงพันธุ์ท้องถิ่นของไทย มักปลูกตามบ้าน และหัวไร่ปลายนาในช่วงต้นฤดูฝน โดยใช้การเพาะเมล็ด ตอนกิ่งหรือการเสียบยอด ปล่อยให้เติบโตตามธรรมชาติ ไม่ต้องการดูแลมาก อาจมีการทำไม้ปักล้อมป้องกันสัตว์แทะเล็มเท่านั้น มีอายุพร้อมเก็บผลประมาณ 110-120 วัน หลังติดผล ทั้งนี้ควรเก็บผลในระยะผลแก่หรือผลห่าม ไม่ควรเก็บขณะที่ผลสุกบนต้น เพราะผลจะซ้ำง่าย มีอายุการเก็บน้อย
- มะม่วงฟ้าลั่น รสชาติมัน กรอบ เป็นพันธุ์ที่จัดการง่าย สู้ฝน ผลค่อนข้างดก มีระยะเวลาในการดูแลสั้น หลังออกดอกไม่เกิน 4 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว
- มะม่วงโชคอน้นต์ ควรปลูกสภาพพื้นที่ไม่เป็นที่ดอน หรือที่ลุ่มน้ำผ่าน ส่วนการดูแลรักษา ตัดแต่งกิ่ง ประมาณปลายเดือนเมษายน แบบเปิดทรงพุ่มให้สูงระดับ 180 เซนติเมตร เพื่อสะดวกในการเก็บเกี่ยว ส่วนการเก็บผลผลิต เกษตรกรจะเก็บผลผลิตได้ปีละ 3 ครั้ง ได้แก่ ช่วงเดือนมีนาคม-ต้นเมษายน , ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนกันยายน และช่วงปลายพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่มะม่วงแต่ละพันธุ์จะนิยมปลูกในช่วงหน้าฝน เพราะเป็นพืชที่ต้องการน้ำ ส่วนการดูแลรักษาก็ไม่ต้องดูแลมาก หากน้ำเพียงพอก็จะได้เก็บผลอย่างแน่นอน