แนวโน้มอสังหาฯปี 63 เน้นเทคโนโลยี-มิกส์ยูสทำเลรถไฟฟ้าเจาะกลุ่มคอนโดต่ำกว่า 3 ลบ.
เริ่มต้นปีมาแบบเงียบสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไม่หวือหวา หรือมีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมสมกับเป็นปีหนูทอง แถมกูรูด้านอสังหาริมทรัพย์หลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงต้องปรับตัว
“อนันต์ อัศวโภคิน” ผู้ก่อตั้งแลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) วิเคราะห์ตลาดอสังหาฯ ปี 2563 ว่า ปีนี้ไม่ถือว่าเลวร้าย เพราะกลุ่มแนวราบระดับกลางยังพอไปได้ ส่วนตลาดล่างยังไม่แย่มากนัก เพราะเป็น 2 กลุ่มที่เป็นเรียลดีมานด์ แต่คอนโดมิเนียมหรูและบ้านตลาดบนที่เจาะกลุ่มนักลงทุนปีนี้จะเหนื่อยเนื่องจากปัจจุบันแถบไม่มีโครงการเปิดใหม่ เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หนี้ครัวเรือนอยู่ในอัตราสูง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการรายใหม่ ก็เกิดยาก เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยกู้จากภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ส่วนรายเก่าก็ต้องปรับตัวเลือกทำเลที่มีดีมานด์ และอย่าฝืนลงทุนในช่วงที่ผู้บริโภคยังไม่มีกำลังซื้อเชื่อว่าปี 2563 น่าจะเป็นปีที่เรียกว่าถึงจุดต่ำสุด แล้วของอสังหาฯ และคาดว่า สถานการณ์ปีหน้าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ปีนี้ต้องเรียกว่าเป็นจังหวะดีของผู้บริโภคที่จะได้เลือกซื้ออสังหาฯ ราคาไม่แพง เพราะดีเวลลอปเปอร์ต้องการระบายสต็อก จากตลาดที่เริ่มโอเวอร์ซัพพลาย จึงจัดโปรโมชั่นและเสนอราคาที่จูงใจ
นอกจากนี้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้วิเคราะห์เทรนด์ที่อยู่อาศัยที่มาแรง และมีอิทธิพลสำหรับดีเวลลอปเปอร์ที่จะปรับสินค้าตอบโจทย์เรียล ดีมานด์ ปี 2563 ประกอบด้วย 1. เทคโนโลยีเชื่อมต่อการอยู่อาศัย ผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อเพื่ออำนวยความสะดวกการอยู่อาศัย 2.เจาะทำเลสุขุมวิทรอบนอก แจ้งวัฒนะ มีนบุรี รามอินทรา และพื้นที่รัชดา-ลาดพร้าว รวมถึงแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายและที่เตรียมเปิดใหม่ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในราคาต่ำกว่า 1แสนบาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) หรือต่ำกว่า 3 ล้านบาท3.บุกตลาดมิกส์ยูสมากขึ้น 4.การร่วมกันกันลงทุนและพัฒนาข้ามแบรนด์ (JV-Joint Venture) เช่น การดึงเชนโรงแรม5 ดาวเข้ามาบริหารคอนโด, การดึงรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาบริการลูกบ้านในคอนโด, การดึงแบรนด์ร้านกาแฟ ตลอดจนไนท์คลับ ในคอนโด ล้วนเป็นการเพิ่มมูลค่าและจุดขายให้กับคอนโด รวมไปถึงการร่วมมือกันระหว่างค่ายอสังหาฯไทยและญี่ปุ่น ลงทุนพัฒนาโคงการเพื่อกระจายความเสี่ยง 5. เน้นโครงการใส่ใจสิ่งแวดล้อม 6.เน้นโครงการทำบนที่ดินเช่าระยะยาวเพราะสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบัน สังคมผู้สูงวัย และคนโสดรวมถึงชาวต่างชาติมากขึ้น หวังว่า เทรนด์อสังหาในปีนี้จะช่วยประคับประคองตลาดอสังหาฯให้ผ่านพ้นปีนี้ไปได้ พร้อมฟื้นตัวอีกครั้งในปี 2564