กระทรวงการคลังทุ่ม 5 พันล้าน กระตุ้นอสังหาฯ ส่งท้ายปี 62
เศรษฐกิจในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมาของปี 2562 โดยรวมแล้วอาจจะไม่สดใสมากเท่าไหร่ สอดคล้องกับข้อมูลของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) ระบุว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยยังคงทรงตัวจากในช่วงครึ่งปีแรก จากความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มชะลอลง ซัพพลายส่วนเกินของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยกู้ นอกจากนี้หลายบริษัทฯ อสังหาฯ ประเมินว่าแม้ช่วงนี้จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาดอสังหาฯ ก็ยังไม่คึกคักเท่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้รัฐบาลก็ได้ประกาศมาตรการสำหรับธุรกิจอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลังได้จัดแคมเปญ ‘บ้านดีมีดาวน์’ งบประมาณ 5,000 ล้านบาทเพื่อลดภาระและให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง โดยรัฐจะช่วยผ่อนดาวน์ (Cash Back) 50,000 บาทต่อราย โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อปี ผู้ที่อยู่ในระบบฐานภาษีอากรของกรมสรรพากร จำกัดไม่เกิน 100,000 ราย และผ่านเกณฑ์ ตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด ซึ่งจะเริ่มแคมเปญตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.2562 – 31 มี.ค.2563 โดยผู้ที่ซื้อที่ซื้อและทำนิติกรรมบ้านแล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.2562 มีสิทธิ์ได้รับเงินดาวน์คืน ด้วยการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ WWW.บ้านดีมีดาวน์.COM ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.2562 เป็นต้นไป และจะต้องลงทะเบียนให้ทัน 100,000 รายตามที่กำหนดจึงจะได้รับเงินดาวน์คืน โดยรอ SMS ยืนยันสิทธิ์จากกรมการปกครองและกรมสรรพากร และนำ SMS ไปขอรับเงินดาวน์คืนซึ่งคืนเงินผ่านพร้อมเพย์ และมีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นผู้ดำเนินการคืนเงินให้ซึ่งแคมเปญนี้ให้สิทธิ์กับผู้ยื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับทุกธนาคารทั้งธนาคารเฉพาะกิจของรัฐและเอกชน แต่กำหนดให้เป็นบ้านใหม่ที่ซื้อจากผู้ประกอบการเท่านั้น ซึ่งมีเหลืออยู่ในระบบ 270,000 ยูนิต
นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่น ๆ สำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนอื่นด้วย อาทิ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ปีการผลิต 2562/63 ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562 กับกรมส่งเสริมการเกษตร ไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท จำนวน 4.57 ล้านครัวเรือน มาตรการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปีงบประมาณ พ.ศ.2563 มี 3 โครงการย่อย ประกอบด้วย 1.จัดสรรเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง 2.โครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย และ 3.โครงการพักชำระหนี้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามความสมัครใจต้องจับตามองว่ามาตรการที่ออกมาจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในแต่ละประเภทได้มากน้อยเพียงใด