ตลาดบ้าน-ทาวน์โฮมปี 62 ยังทรงตัวแนะผู้ประกอบการอสังหาฯใช้เทคนิคประคองตัว
เหลืออีกแค่ 1 เดือนเท่านั้นก็จะหมดปี 2562 ในทุกๆปีใครที่กำลังเล็งหาซื้อคอนโดมิเนียม บ้านหรือทาวน์โฮม ต่างก็รีบจอง โอนก่อนสิ้นปีทั้งนั้น เพราะราคาดีแถมมีโปรโมชั่นโดนใจอีกเพียบ ทางด้านผู้ประกอบการเองก็ไม่ต่างกันเร่งเข็นยอดขายให้ตามเป้ากันอย่างคึกคัก แต่ในปีนี้กับเงียบสนิท หลังรัฐบาลออกประกาศปรับเป้าผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ หรือจีดีพีลดลง กำลังซื้อผู้บริโภคแผ่วเบา หวังเพิ่งกำลังซื้อต่างชาติก็ค่าเงินบาทแข็งขึ้นอีก
เมื่อช่วงเดือนก่อนที่ผ่านมา ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) จัดงานสัมมนา “วิเคราะห์ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ 2020” โดยมีตัวแทนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ร่วมวิเคราะห์ทิศทางแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะบ้านและทาวน์โฮมซึ่งเป็นตลาดเซกเมนท์ใหญ่ ตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้ถึงต้นปี 2563
นาย วสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวถึงภาพรวมแนวราบว่า ปีนี้ทรงๆตัว ใช้กลยุทธ์แบบประคองตัวคือทยอยทำทีละเฟส เปิดขายน้อยลงจากปกติเฉลี่ยทุก 6 เดือนมีการเปิดตัวแนวราบ 20,000 หน่วยแต่ล่าสุดผู้ประกอบการปรับเหลืออยู่ที่ 17,000 หน่วย ขณะที่ นายอธิป พีชานนท์ ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปรับตัวของทาวน์เฮาส์ต้องหาทำเลแซนด์วิชอยู่ตรงกลางระหว่างบ้านเดี่ยวกับคอนโดมิเนียม ส่วนบ้านเดี่ยวทำเลควรอยู่รอบนอกออกไปหรือช่วงปลายแนวรถไฟฟ้า
สำหรับในต่างจังหวัดควรเน้นลงทุนจังหวัดที่มีตลาดจ้างงาน สถานศึกษาและ แหล่งท่องเที่ยว คาดว่า 1-2 ปีข้างหน้าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม นอกจากเศรษฐกิจจะมีผลต่อ ตลาดอสังหาริมทรัพย์แล้ว มาตรการกำกับความคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือ LTV และความเข้มงวดในการปล่อยเงินกู้จากสถาบันการเงินก็ยังมีผล ทำให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้นล่าสุดไตรมาส3มียอดปฏิเสธสินเชื่อจำนวน 15 % จากเดิมเมื่อช่วงไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 7% เพราะฉะนั้นดูเหมือนว่าสิ่งที่จะช่วยให้ตลาดบ้านและทาวน์โฮมกลับมาคึกคักคงไม่ใช่แค่ภาวะเศรษฐกิจภาพรวมแล้วแต่คงต้องปรับหลายๆส่วนที่ต้องปรับตัวไปพร้อมๆกัน
