• 23 พฤศจิกายน 2024
  • Thailand

ตลาดคอนโดฯ ไฮเอนด์ชะงัก จากซัพพลายที่ล้นตลาด

ตลาดคอนโดฯ ไฮเอนด์ชะงัก จากซัพพลายที่ล้นตลาด

ตลาดคอนโดฯ ไฮเอนด์ชะงัก จากซัพพลายที่ล้นตลาด

คอนโดมิเนียมไฮเอนด์ ที่ผ่านมาในช่วง 3-4 ปี มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง และนักลงทุนชาวไทยและต่างชาติ จึงทำให้ผู้เล่นกลุ่มดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้าก่อสร้างคอนโดไฮเอนด์ มาเจาะซัพพลายในส่วนนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปตลาดไฮเอนด์อาจจะไม่เติบโตสวยหรูอีกต่อไป จากปัจจัยต่างๆ หลายด้าน ส่งผลให้ความต้องการลดลง กลุ่มผู้เล่นในตลาดนี้ต้องหันมาวางแผนในการเปิดโครงการใหม่ๆ ทั้งนี้ปัจจัยการชะลอตัวของคอนโดฯ ไฮเอนด์ มีหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวโครงการจำนวนมาก เกินดีมานต์ที่มีอยู่ในตลาดคอนโดฯ ไฮเอนด์ โดยข้อมูลจากบริษัทเน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง ระบุถึงภาพรวมของตลาดคอนโดฯ ทั้งหมดในปีที่ผ่านมาว่าการเกิดขึ้นของดีมานต์ในตลาดค่อนข้างสูง ซึ่งมีโครงเปิดใหม่ของคอนโดฯ ถึง 60,900 ยูนิต จากทั้งหมด 138 โครงการ ส่งผลให้มีจำนวนยูนิตของคอนโดฯ สะสมทั้งหมด 610,900 ยูนิต ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็นคอนโดฯ ไฮเอนด์ (ราคาเฉลี่ย 110,000-190,000 บาท/ตารางเมตร) มากถึง 41% โดยไม่สอดคล้องกับกำลังซื้อในตลาดที่ลดลง

นอกจากนี้ยังรวมไปถึงดีมานต์จากนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในลูกค้าหลักของคอนโดฯ ไฮเอนด์ ซึ่งที่ผ่านการลงทุนมีการชะลอตัว ดังนั้นเมื่อการลงทุนชะลอตัว ก็หมายถึงกำลังซื้อชะลอตามไปด้วย ซึ่งมาจากหลายสาเหตุทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่มีความแน่นอน รวมถึงการนักลงทุนที่รอความแน่นอนและชัดเจน หลังการเลือกตั้งของไทยที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ซึ่งหากปัจจัยภายนอกและภายในที่มีผลต่อเศรษฐกิจมีความชัดเจน การลงทุนก็มีโอกาสที่จะกลับมาคึกคัก ซึ่งจะส่งผลต่อกำลังซื้อในธุรกิจอสังหาฯ เช่นกัน การเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ในธุรกิจภาคอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดฯ ทั้งตลาดบน ตลาดกลาง ตลาดล่าง หากเกิดการสร้างซัพพลายที่เกินดีมานต์ และกำลังซื้อของผู้บริโภค ย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ดังนั้นการวางแผนและวิเคราะห์ตลาดของสินค้า มีความจำเป็นต่อธุรกิจอย่างมาก แต่การลงทุนทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยง แต่การลงทุนจะคุ้มความเสี่ยงหรือไม่ก็ต้องลุ้นกันไป