เศรษฐกิจชะลอตัว กระทบภาพรวมเงินเฟ้อ-เงินฝืด
ด้วยปัจจัยทั้งภายนอกและภายใน ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำ ซึ่งส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ-เงินฝืดเช่นกัน โดยข้อมูลรายงานนโยบายการเงิน จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้และต่ำกว่าระดับศักยภาพจากการส่งออกที่ลดลง ซึ่งส่งผลไปสู่อุปสงค์ในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้มีแนวโน้มต่ำกว่าที่ประเมินไว้และต่ำกว่ากรอบเป้าหมายจากราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ต่ำกว่าคาด แต่มีแนวโน้มปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปีหน้า และระบบการเงินมีความเสี่ยงในบางจุดที่อาจสร้างความเปราะบางให้กับเสถียรภาพของระบบการเงินในอนาคต
ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงเช่นเดียวกัน เนื่องจากการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่รุนแรงขึ้นส่งผลกระทบต่อการผลิต การส่งออก ทั้งนี้สิ่งที่จะเข้ามาช่วยและสนับสนุนให้เศรษฐกิจ ก็คือการลงทุนภาคเอกชน ตลอดจนการบริโภคภาคเอกชนถือเป็นแรงสนับสนุนสำคัญจากการจ้างงานที่อยู่ในเกณฑ์ดี รวมไปถึงทิศทางนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัว
ทั้งนี้จากเศรษฐกิจที่ไม่มีการขยายตัวหรือขยายตัวลดลงนั้นก็ส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ-เงินฝืดได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกำลังการซื้อ การบริโภคของประชาชน และการขายสินค้าต่างๆ โดยปัจจุบันจะเห็นได้ว่าราคาสินค้ามีราคาแพงขึ้น ประชาชนต้องจ่ายเงินในจำนวนที่มากขึ้นเพื่อการอุปโภคบริโภค เกี่ยวข้องกับภาวะเงินเฟ้อที่ราคาสินค้าแพง ทำให้ได้จำนวนสินค้าที่ลดลง หากมีการลดต้นทุนหรือต้นทุนต่ำลง ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน ราคาพลังงาน ก็จะสามารถลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น โดยมีความเกี่ยวเนื่องกับภาวะเงินฝืดเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ลดลง เงินหมุนเวียนจึงน้อย ประชาชนจึงมีการใช้จ่ายลดลง ต้องระมัดระวังการใช้จ่าย หากสภาพเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ อาจจะส่งผลให้การใช้จ่ายภาวะเงินเฟ้อ-เงินฝืดไม่คลี่คลาย
ดังนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญอย่างภาครัฐต้องมีการวางแผนและดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจที่มีความชัดเจน รวมไปถึงแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริงและระยะยาว ซึ่งต้องจับตาดูว่าแผนงบประมาณปี 2563 จะเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้มากน้อยเพียงใด
