ตลาดปูนซีเมนต์ครึ่งปีหลัง จะกลับมาคึกคัก ด้วยแรงกระตุ้นภาครัฐ

ตลาดปูนซีเมนต์ครึ่งปีหลัง จะกลับมาคึกคัก ด้วยแรงกระตุ้นภาครัฐ

ดูเหมือนว่าทุกธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในปีนี้กันอย่างมากมายไม่เว้นแม้กระทั่ง “ซีเมนต์ “หนึ่งในธุรกิจที่ทิศทางผกผันตามโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ไม่ว่า รางรถไฟ ถนนทางหลวง หรือ รางรถไฟฟ้า ต่างก็ต้องใช้ซีเมนต์เป็นส่วนประกอบทั้งนั้น แต่ล่าสุด กระทรวงการคลังรายงาน การจำหน่ายปูนในประเทศ เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ภาพรวมหดตัวติดลบ 3.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากตัวเลขการจำหน่ายปูนในประเทศดังกล่าว คาดว่าจะมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ปัจจุบัน ภายในประเทศมีการใช้ซีเมนต์อยู่ที่ 35-36 ล้านตันต่อปีซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐเดิมที่ใช้เวลาในการดำเนินการเป็นปี แต่โครงการใหม่ๆ ไม่ได้ถูกอนุมัติให้เริ่มก่อสร้าง รวมทั้ง เอกชนเองก็ไม่มีใครเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่ม เนื่องจากยอดขายโครงการเดิมยังไม่ได้ดี ขณะที่กำลังการผลิตอยู่ที่ 50-66 ล้านตันต่อปี

หนทางการเอาตัวรอดของผู้ประกอบการปูนซีเมนต์จึงต้องมองหาตลาดใหม่ นั่นคือ ตลาดประเทศเพื่อนบ้านเพื่อป้องกันความเสี่ยง และขยายการลงทุนจากโอกาสที่ประเทศเพื่อนบ้านมีการเติบโตประมาณ 5% ขึ้นไป เริ่มจาก ปูนซีเมนต์ไทย ขยายการผลิตไปยังกัมพูชามากที่สุดคือ 2.1 ล้านตัน รองลงมาคือ อินโดนีเซีย เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา ตามลำดับส่วนปูนซีเมนต์นครหลวง ขยายการผลิตไปที่ เวียดนามมากที่สุด 5.2 ล้านตัน รองลงมาคือ ศรีลังกา กัมพูชา บังกลาเทศ ตามลำดับ (ข้อมูลจากนสพ.ฐานเศรษฐกิจ)

ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปูนซีเมนต์ไทย เปิดเผยว่าตลาดซีเมนต์ในประเทศคาดว่าไตรมาส 2จะขยายตัวได้ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก จากแรงกระตุ้นการลงทุนภาครัฐอย่างต่อเนื่องเพราะหลายโครงการได้มีการประมูลเรียบร้อยแล้ว และภาพรวมเศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ถึงแม้ว่าผู้ประกอบการปูนซีเมนต์จะเริ่มบุกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเนื่องจากความต้องการที่ลดลง แต่ก็ยังมีความหวังตลาดซีเมนต์ในประเทศจะกลับมาคึกคักในช่วงครึ่งปีหลังอีกครั้ง