“เอพี ไทยแลนด์” เผยแผนครึ่งปีหลัง เปิดตัวบ้านเดี่ยว 18 โครงการ มูลค่ารวม 24,030 ลบ. พร้อมเปิดแบรนด์ใหม่ ‘MODEN’ ราคาเริ่มต้น 3-5 ลบ.
นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่กลุ่มธุรกิจพัฒนาบ้านเดี่ยวสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ โดยเฉพาะการบริหารจัดการในสภาวะวิกฤตการณ์ แพร่ระบาด วันนี้บ้านเดี่ยวเอพี ยังถือครองส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล (รอบปี พ.ศ. 2558 – 2564) ควบคู่กับการเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งในมิติจำนวนและมูลค่าการพัฒนาโครงการใหม่โดยปี 2565 ถือเป็นปีที่บ้านเดี่ยวเปิดตัวโครงการมากสุดถึง 23 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 32,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ถ้าเทียบจากปีก่อนหน้า รวมถึงสัดส่วนการกระจายโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่ที่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าปีนี้ บ้านเดี่ยวเอพีจะมีโครงการปูพรมในทุกพื้นที่มากกว่า 50 โครงการ ซึ่งเป็นจำนวนตัวเลือกที่มากพอที่จะให้ลูกค้าสามารถมีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้”
“คีย์ไดรฟ์ที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเอพีเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง มาจากทิศทางการพัฒนาสินค้าที่ชัดเจนในการสร้างความต่างในเรื่องของ Product Offering และ Price Package เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาตัวบ้าน จะต้องตอบได้ในเรื่องความคุ้มค่าทั้งในมิติด้านพื้นที่ใช้สอยไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตยกรรมภายนอกที่ต้องส่งผลต่อพื้นที่ภายใน ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บ้านเดี่ยวเอพีจะต้องส่งมอบความรู้สึกที่มากกว่า ควบคู่ไปกับแพ็กเกจราคาขายที่ลูกค้ารับได้ เมื่อเทียบกับซัพพลายที่เสนอขายอยู่ในทำเลเดียวกัน”
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลที่ชำนาญ ทั้งทดแทนโครงการเก่าที่ปิดการขายลง หรือการขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่ความท้าทายใหม่ของปีนี้คือการนำบ้านเดี่ยวเอพีบุกเข้าไปยังตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ Market Penetration เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง โดยการบุกตลาดใหม่ครั้งนี้จะเป็นการเข้าไปในทำเลใหม่ๆ ที่ยังไม่มีสินค้าในพอร์ตเอพี ด้วยแบรนด์สินค้าที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า MODEN (โมเดน) ภายใต้มาตรฐานที่ไม่ต่างจากบ้านเดี่ยวเอพีในแบรนด์อื่นๆ
“ตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ถือเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ ด้วยจำนวนซัพพลายที่เกิดขึ้นจากดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ยังมีไม่มาก เราจึงอยากใช้ความชำนาญและความเชี่ยวชาญที่เรามีสร้างโอกาสในการเติบโต และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับพอร์ตสินค้าบ้านเดี่ยวเอพีเรา ควบคู่ไปกับการส่งมอบตัวเลือกใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกชีวีตดีๆ ที่ต้องการ ซึ่งเราเชื่อว่าการเปิดตัวแบรนด์ MODEN ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ไม่ต่างจากแบรนด์บ้านเดี่ยวอื่นๆ ของเราที่ประสบความสำเร็จ” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าว
นางพิมพรรณ ปรีชานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปัจจุบันความท้าทายของการพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยวมาถึงจุดที่ยกระดับไปมากกว่า เรื่องของทำเลที่ตั้ง และเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ปัจจุบันรูปแบบการใช้พื้นที่ของคนกับฟังก์ชันการใช้งานได้เปลี่ยนแปลงไป COVID-19 กระตุ้นให้เกิดเทรนด์ Home Nesting ขึ้น คือการเนรมิตให้บ้านต้องเป็นทุกอย่างได้ คำว่าที่ทำงาน ก็ลงดีเทลไปได้อีก ที่อาจจะไม่ไช่แค่โต๊ะนั่งประชุมทำงานอย่างเดียว สามารถปรับเป็นสตูดิโอ มุมพักผ่อนในบ้าน ตลอดจนเป็นคาเฟ่เล็กๆ ส่งผลให้การออกแบบบ้านต้องให้ความสำคัญในเรื่อง Flexible Space มากขึ้น ปรับเปลี่ยนได้ ใช้งานได้จริง ไม่อึดอัด
ครึ่งปีหลังนี้กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเอพีจึงพร้อมเปิดตัว 17 แบบบ้านใหม่ เพื่อส่งมอบความรู้สึกใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น กับ 18 โครงการที่เตรียมพร้อมเปิดตัว ประกอบด้วย แบรนด์ THE CITY บ้านเดี่ยวเซกเมนต์ไฮเอนด์ ขนาดที่ดิน 100-127 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 386-560 ตารางเมตร ราคา 12-20 ล้านบาท แบรนด์ CENTRO บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซกเมนต์กลางบน ขนาดที่ดิน 50-62 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 203-305 ตารางเมตร ราคา 5-12 ล้านบาท และแบรนด์น้องใหม่ “MODEN” บ้านเดี่ยวสำหรับคน Gen Z ที่มาพร้อมกับ 5 แบบบ้านที่ให้ความรู้สึกใหม่ ขนาดที่ดิน 50-54 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 163-227 ตารางเมตร โหมดราคา 3-5 ล้านบาท
“หัวใจของการออกแบบพัฒนาโครงการในวันนี้และในอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์ต้องกลับมาทำการบ้านในการออกแบบพื้นที่มากขึ้น รวมถึงการเข้าใจอินไซต์ของการใช้พื้นที่ที่แตกต่างกันของทุกสมาชิกในครอบครัว เพราะถ้าเราถอดรหัสความต้องการในการใช้พื้นที่จริงๆ ของบ้านหลังหนึ่งแล้วนั้น เราจะพบว่าทั้งเพศ วัย ไลฟ์สไตล์ ความต้องการพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ส่วนรวมภายในบ้านหนึ่งหลัง มีรายละเอียดที่การออกแบบจะต้องเข้าไปตอบโจทย์ ที่สำคัญวันนี้ลูกค้ากำลังมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใหม่ๆ ให้ความรู้สึกที่ไม่น่าเบื่อ พื้นที่ที่สร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยในมุมมองใหม่ที่ต่างไปจากเดิม”
“การตอบรับที่ดี ถือว่าเป็นกำลังใจสำคัญของทีมมาก เพราะเรามั่นใจว่า เราเป็นแบรนด์ที่พัฒนาบ้านอยู่ตลอดเวลาจริงๆ เรามองว่า ไม่ใช่แค่การได้มาซึ่งที่ดิน และนำแนวความคิดเดิม แบบบ้านเดิมมาสร้างเพื่อขาย แต่เราให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้านใหม่ พื้นที่ใช้สอย หน้าตาความสวยงาม ต้องไปพร้อมกับบริบทของโลเคชั่นนั้นจริงๆ รวมถึง เราศึกษาเรื่องเทรนด์ที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิดมา เราศึกษาพฤติกรรม ความต้องการของวันนี้ ลึกลงไปเรื่อยๆ ลึกไปถึงการใช้พื้นที่ในบ้าน ว่าแต่ละสมาชิกในครอบครัวเค้าจะสามารถมี connected space, private space ที่ลงตัวที่สุดได้อย่างไร” นางพิมพรรณ กล่าว
สำหรับในไตรมาส 3 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยว 6 โครงการใหม่ มูลค่า 8,770 ล้านบาท เป็นแบรนด์ THE CITY จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ THE CITY บางนา จำนวน 167 ยูนิต มูลค่า 2,150 ล้านบาท และโครงการภายใต้แบรนด์ CENTRO จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 6,620 ล้านบาท พร้อมสร้างสีสันการตลาดไตรมาส 3 ผ่านแคมเปญ THE NEIGHBOR ชวนคุณมาอยู่ด้วยกัน เป็นการต่อยอด จาก MINI SERIES YOUTUBER ที่ทำปีที่แล้ว และได้รับกระแสที่ดี คือการที่เราเชิญคนดัง และเหล่า YouTube ที่เค้าเป็นลูกบ้านเอพี เป็นคนที่ตัดสินใจซื้อ และใช้ชีวิตอยู่จริงมาถ่ายทอดเรื่องราวการใช้สเปซในบ้านเอพี โครงการภายใต้แบรนด์ MODEN บริษัทฯ เตรียมจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 จำนวน 3 โครงการ มูลค่า 3,550 ล้านบาท ได้แก่ MODEN บางนา-ศรีนครินทร์, MODEN พระราม 2 และ MODEN บางนา-เทพารักษ์ ราคา 3-5 ล้านบาท