• 23 พฤศจิกายน 2024
  • Thailand

กรมพัฒนาพลังงานเตรียม พิจารณาผลักดันแผนโครงการพลังงานทางเลือกตามแผน AEDP 2018 คาดทั้งปี พลังงานไฟฟ้าทางน้ำ และก๊าซธรรมชาติความต้องการเพิ่มขึ้น

กรมพัฒนาพลังงานเตรียม พิจารณาผลักดันแผนโครงการพลังงานทางเลือกตามแผน AEDP 2018  คาดทั้งปี พลังงานไฟฟ้าทางน้ำ และก๊าซธรรมชาติความต้องการเพิ่มขึ้น

กรมพัฒนาพลังงานเตรียม พิจารณาผลักดันแผนโครงการพลังงานทางเลือกตามแผน AEDP 2018
คาดทั้งปี พลังงานไฟฟ้าทางน้ำ และก๊าซธรรมชาติความต้องการเพิ่มขึ้น


เนื่องจากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะการผลิตน้ำมันดิบไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้พลังงานทางเลือกจึงกลายเป็นสิ่งที่หลายๆ ประเทศพยายามผลักดันให้สามารถใช้ทดแทนได้ ล่าสุด กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) พิจารณารับรองโครงการภายใต้แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ปี 2561-2580 (AEDP 2018) เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2564 ระบุว่า โครงการที่จะขอรับรองจะต้องเป็นโครงการที่เข้าหลักเกณฑ์การยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม สำหรับการประกอบกิจการบางประเภทตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ที่มีผลบังคับใช้อยู่แล้วในวันที่ 20 มกราคม 2559 และที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2559 – 19 มกราคม 2560 และอยู่ภายใต้แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ปี 2561 – 2580 (AEDP 2018) ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพื่อใช้เอง หรือจำหน่ายให้กับลูกค้าโดยตรง,โครงการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลและ โครงการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ตลอดจนระบบคลังที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การขนส่ง และการจำหน่าย เช่น เอทานอล ไบโอดีเซล น้ำมัน ไพโรไลซิส ก๊าซไบโอมีเทนอัด และเชื้อเพลิงทางเลือกอื่น


สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาออกใบรับรองโครงการจะต้องยื่นประกอบการพิจารณา นอกจากจะมีสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลแล้ว ต้องมีสำเนาหนังสือแจ้งจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ว่าพื้นที่ประกอบกิจการอยู่ในเขตพื้นที่ตามประกาศแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่ได้จำแนกประเภทท้ายกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองที่มีผลบังคับใช้อยู่แล้ว ในวันที่ 20 มกราคม 2559 และที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 มกราคม 2559 – 19 มกราคม 2560 และระบุพิกัด พื้นที่ประกอบกิจการ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณารับรองโครงการ รวมถึงหนังสือการตรวจสอบข้อบัญญัติท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และสำเนาใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) สำหรับกรณีโครงการมีการขยายกำลังการผลิตของโรงงานเดิม และรายละเอียดของแผนงานโครงการ


ขณะที่ภาพรวม การใช้พลังงานทางเลือก 6 เดือนแรกที่ผ่านมา การใช้ก๊าซธรรมชาติ เพิ่มขึ้น 4.1 % ยกเว้นการใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ (NGV) การใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 3.9 % ตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจากการใช้ไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมและการใช้เป็นเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพิ่มขึ้น 7.2 % และ 6.0 % ตามการส่งออกที่ขยายตัวได้ดี ส่วนการใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ (NGV) ลดลง 18.90% ซึ่งลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จากผู้ใช้รถยนต์ NGV บางส่วนหันมาใช้น้ำมันทดแทน รวมถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นข้อจำกัดทำให้การใช้ NGV ในการเดินทางลดลง ส่วนการใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์ เพิ่มขึ้น 4.9% ตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว


โดยปี 2564 การใช้ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน/ลิกไนต์ คาดว่ามีการใช้เพิ่มขึ้น 3.5% และ 1.8% ตามลำดับ ด้านการใช้ไฟฟ้าพลังน้ำและไฟฟ้านำเข้า คาดว่าเพิ่มขึ้น 11.7 % การใช้ LPG ในภาคครัวเรือน คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9 % และ ภาคขนส่งคาดว่ามีการใช้ลดลง 24% ก๊าซธรรมชาติ คาดว่าการใช้จะเพิ่มขึ้น 3.5 %