ราคาน้ำมันโลกพุ่ง ไทยเตรียมกู้เงินเพิ่ม ตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท ลดเก็บเงินเข้ากองทุนเหลือ 5 สตางค์
ส่วนอินเดียประกาศลดภาษีน้ำมัน ช่วยเหลือประชาชน
ท่ามกลางการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลต่อเนื่องให้ประเทศที่ส่งออกน้ำมันดิบ ปรับลดกำลังการผลิต จนเกิดความต้องการเชื้อเพลิงสูง ผลักให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งจนอยู่ในระดับ 80-90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือ 2,600-3,000 บาท ขณะที่ ประเทศไทย ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรถบรรทุกที่เรียกร้องให้รัฐบาลปรับลดราคาลงเพื่อช่วยเหลือต้นทุนการขนส่ง
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เนื่องจากประเทศไทยมีการนำเข้าน้ำมันดิบ 965,000 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็น 90% จากตะวันออกกลาง มาเลเซีย อินโดนีเซีย สหรัฐฯ และรัสเซีย ทำให้ราคาน้ำมันในประเทศเปลี่ยนตามราคาในตลาดโลกและตลาดเอเชีย
สำหรับราคาน้ำมันขายปลีกหรือราคาหน้าปั๊มน้ำมัน จะคำนวณอ้างอิงราคาตามตลาดกลางภูมิภาคเอเชีย บวกกับภาษีสรรพสามิต ตกประมาณ 5.99 บาท ซึ่งภาษีส่วนนี้มีการเก็บมาตลอด แต่อัตราจะเพิ่มลดตามสถานะทางการคลังของประเทศ ยังมีภาษีเทศบาลหรือภาษีท้องถิ่น อยู่ประมาณ 10% ของภาษีสรรพสามิต ประมาณ 60 สตางค์ บวกภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีก 7% ของภาษีสรรพสามิต ประมาณ 40 สตางค์ และมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 10 สตางค์
ซึ่งปัจจุบันค่าการตลาดจากการขายปลีกน้ำมัน อยู่ที่ช่วงระหว่าง 70 สตางค์ ถึง 1.20 บาท ซึ่งคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กำหนดไว้ที่ 1.40 บาท เพื่อลดผลกระทบจากราคาน้ำมันโลก รัฐบาลใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ชดเชยให้ผู้ค้าน้ำมัน เพื่อตรึงราคา เช่น ราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท จนกว่าราคาน้ำมันโลกจะลดลง งดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชั่วคราว ส่วนกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กำลังจะมีการประชุมลดการเก็บเงินเข้ากองทุนจาก 10 สตางค์ให้เหลือ 5 สตางค์
ทั้งนี้ ประเทศไทยเหลือเงินในกองทุนประมาณ 7 พันล้านบาท ซึ่งจะตรึงราคาต่อไปได้จนถึงเดือน ม.ค. ปี 2565 แต่กำลังยื่นเรื่องขออนุมัติกู้ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อสามารถตรึงราคาน้ำมันได้ถึงเดือน เม.ย.-พ.ค. ปี 2565 เช่นกัน ขณะเดียวกันสถานการณ์ ราคาน้ำมันในต่างประเทศ อยู่ที่ 17-52 บาท ได้แก่ สิงคโปร์อยู่ที่ 52 บาทต่อลิตร, สปป.ลาวอยู่ที่ 30 บาทต่อลิตร ,กัมพูชา 30 บาทต่อลิตร ,เมียนมา 27 บาทต่อลิตร ,อินโดนีเซีย 27 บาทต่อลิตร ,เวียดนาม 24 บาทต่อลิตร และ มาเลเซีย 17 บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตาม ทางด้านประเทศอินเดีย รัฐบาลอิประกาศลดภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเบนซิน 5 รูปีหรือ 2 บาท และน้ำมันดีเซลลดลง 10 รูปีหรือ 4 บาท นอกจากนี้ อย่างน้อย 10 รัฐที่อยู่ภายใต้การบริหารของพรรคภาราติยะ ชนะตะ ของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี หรือ พรรคที่เป็นพันธมิตรของเขา ประกาศเพิ่มเติมว่าจะลดภาษีน้ำมันในพื้นที่อีกลิตรละ 7 รูปี หรือ 3 บาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนในประเทศอีกด้วย
