• 22 พฤศจิกายน 2024
  • Thailand

สิงห์ เอสเตท อัพเดทความคืบหน้า เอส โอเอซิส (S Oasis)

สิงห์ เอสเตท อัพเดทความคืบหน้า เอส โอเอซิส (S Oasis)

สิงห์ เอสเตท อัพเดทความคืบหน้า เอส โอเอซิส (S Oasis) โครงการสำนักงาน พร้อมเปิดให้สัมผัสประสบการณ์ และไลฟ์สไตล์การทำงานที่สมบูรณ์แบบ พร้อมรับวิถีชีวิต New Normal กลางปีหน้า


นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าการพัฒนาโครงการเอส โอเอซิส บนถนนวิภาวดีรังสิต ว่าปัจจุบันงานก่อสร้างตัวอาคารในโครงการเอส โอเอซิส มีความคืบหน้าไปอย่างมาก โดยล่าสุดได้มีการจัดทำพิธีเทคอนกรีตปิดงานก่อสร้างโครงสร้างอาคารภายนอก (Topping Off) บนชั้นดาดฟ้า เพื่อแสดงถึงความพร้อมของโครงการที่มีกำหนดเปิดใช้อาคารในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 นี้ โดย โครงการเอส โอเอซิส คืออาคารที่พัฒนาเพื่อรองรับการทำงาน และใช้ชีวิตแบบ New Normal เป็นอาคารอัจฉริยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Smart and Eco-friendly Building) ตอบโจทย์วัฒนธรรมการทำงานยุคใหม่ที่พนักงานสามารถทำงานแบบไร้ข้อจำกัด Hybrid Work Model และบูรณาการพื้นที่โดยรอบอาคารให้มีสภาพแวดล้อมที่สดใส สร้างแรงบันดาลใจในการทำงานกับบรรยากาศที่ผ่อนคลาย



“เอส โอเอซิส เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพระดับ Best-in-class ของสิงห์ เอสเตท ถูกออกแบบด้วยแนวคิด Enriching Life สร้างคุณค่าให้ชีวิต มุ่งมั่นสร้างสังคมคุณภาพที่ดี ตามแนวทางของสิงห์ เอสเตท เพื่อนำไปสู่การสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับชุมชนโดยรอบ ให้ความใส่ใจในทุกขั้นตอน ออกแบบตามมาตรฐาน LEED เน้นการอนุรักษ์พลังงาน ส่งเสริมประสิทธิภาพและสุขภาวะที่ดี การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีมลพิษต่ำ มีการก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน เพิ่มความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความสะดวกสบาย พร้อมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน”  






ทั้งนี้ โครงการเอส โอเอซิส เป็นอาคารสำนักงานระดับพรีเมียมมูลค่า 3,695  ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต พื้นที่โครงการ 6 ไร่ 3 งาน 24 ตารางวา เป็นสำนักงานเกรด เอ อาคารแรกบนถนนวิภาวดีรังสิต สูง 35 ชั้น ประกอบด้วยพื้นที่ให้เช่า 54,000 ตารางเมตร พื้นที่ค้าปลีก 1,700 ตารางเมตร ที่จอดรถยนต์จำนวน 870 คัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิเช่น EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อร่วมสนับสนุนทุกการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังมีอาคารจอดรถโดยรอบสามารถรองรับได้กว่า 1,400 คัน โดยพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ปี