คาดไตรมาส 3 ปี 2564 ผู้ประกอบการเตรียมเปิดคอนโดเพิ่มราคาขายจับต้องง่ายขึ้น เน้นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์
ราคาขาย 1-3 ล้านบาท/ยูนิต กระจายทำเลชานเมือง
หลังนายกรัฐมนตรีประกาศเตรียมเปิดประเทศภายใน 120 วัน จนทำให้นักธุรกิจหลายคนเชื่อมั่นว่าจะช่วยให้กระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวได้ภายในไตรมาส 3 เป็นต้นไป มาดูกันว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง
จากผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย พบว่า ตลาดคอนโดมิเนียมไตรมาส 1 ของปี 2564 ซัพพลายใหม่ค่อนข้างชะลอตัว เปิดขายใหม่ที่ 3,634 หน่วย ลดลง -41.8% เทียบกับไตรมาส 1ของปี 2563 ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียมเกรดบี ราคาตารางเมตรละ 80,000-150,000 บาท สัดส่วน 41% รองลงมาราคาต่ำกว่าตารางเมตรละ 80,000 บาท 31% ขณะที่คอนโดฯเกรดเอ ราคาเกินตารางเมตรละ 150,000 บาท สัดส่วน 24% และคอนโดระดับซูเปอร์ไพร์ม 4% ทำเลเปิดใหม่อยู่บริเวณชานเมืองกรุงเทพฯ 50% ตามมาด้วยโซนรอบเขตศูนย์กลางธุรกิจ (City Fringe) 46% และคอนโดฯในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) 4% ส่วนดีมานด์มีหน่วยขายใหม่ 1,340 หน่วย จากซัพพลายเปิดขายใหม่ในไตรมาส 1ของปี 2564 จำนวน 3,634 หน่วย คิดเป็นอัตราการขาย 37% อัตราการขายเพิ่มขึ้น 7% เปรียบเทียบกับไตรมาส 1ของปี 2563 และมีอัตราการขายเพิ่มขึ้น 4% เทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2563 เนื่องจากบางโครงบางทำเลทำยอดขายได้สูงถึง 80%
ด้านราคาขายใหม่ของไตรมาส 1 ของปี 2564 ค่อนข้างทรงตัวหรือปรับลงเล็กน้อย แบ่งเป็นทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจเฉลี่ย 251,158 บาท/ตารางเมตร ปรับตัวลดลง – 6.3% เทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2563 และลดลง – 0.1% เทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2563, ทำเลรอบเขตศูนย์กลางธุรกิจ (City Fringe) เฉลี่ย 123,250 บาท/ตารางเมตร ลดลง-17.6% เทียบกับไตรมาส 1ของปี 2563 ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2563 ทำเลชานเมืองกรุงเทพฯ เฉลี่ย 68,683 บาท/ตารางเมตร ลดลงร้อยละ -15.3% เทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2563 ปรับตัวลง 0.3% เทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2563 โดยราคาขายไตรมาส 1 ของปี 2564 ปรับตัวลงเล็กน้อย คาดว่าราคาขายยังคงไม่ปรับตัวขึ้นในไตรมาส 2 ของปี 2564 เพราะหน่วยเหลือขายมีเหลืออยู่มาก
คาดว่าตลาดคอนโดมิเนียมไตรมาส 2 ของปี 2564 ยังคงชะลอตัวทั้งดีมานด์และซัพพลายเกิดใหม่ โครงการเปิดขายใหม่คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ของปี 2563 อยู่ที่ 3,000-4,000 หน่วย มีราคาขายต่ำกว่า 100,000 บาท/ตารางเมตร การเดินทางสะดวก มีขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้น เพิ่มสัดส่วนพื้นที่ทำงานที่บ้านเพื่อให้ตอบโจทย์เทรนด์ความต้องการที่อยู่อาศัยในปี 2564 ตั้งราคาขายจับต้องง่ายขึ้น เน้นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ และกลุ่มลูกค้าที่มีฐานเงินเดือนไม่สูง ราคาขาย 1-3 ล้านบาท/ยูนิต กระจายทำเลบริเวณชานเมืองเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่ คอลลิเออร์ส ประเทศไทย เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของ โควิด-19 รอบ 3 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ลดลง เหลือ 3,000 ยูนิต จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 4,500 ยูนิต เพราะการแพร่ระบาดส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและอารมณ์ซื้อของลูกค้า ดังนั้นผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่ยังไม่ได้ประกาศวันเวลาที่ออกมาชัดเจนในการเปิดตัว จะชะลอหรือเลื่อนโครงการออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์โควิดจะคลี่คลาย คาดว่า ไตรมาสที่ 3 และ 4 จะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดเพิ่มขึ้น
