ธุรกิจก่อสร้างท้องถิ่น สู้วิกฤตเศรษฐกิจ บุกออนไลน์เปิดตัวแอปพลิเคชั่นดึงกลุ่มลูกค้า
สถานการณ์ธุรกิจในประเทศ ทั้งขนาดเล็ก กลางและใหญ่ต่างคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็ว แม้กระทั่งตลาดวัสดุก่อสร้าง ล่าสุดนายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชรจำกัด (มหาชน) หรือ DRT มองว่า ตลาดวัสดุก่อสร้างในปีนี้ จะมีการขยายตัวประมาณ 5-10% จากความต้องการสินค้าในช่วง 2 เดือนแรก และการควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ด้วยวัคซีน ที่สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์
ขณะที่ ธุรกิจวัสดุก่อสร้างขนาดกลางหรือท้องถิ่น หลังจากปีที่ผ่านมา ตลาดวัสดุก่อสร้างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เกิดการแข่งขันในตลาดที่รุนแรง ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว พัฒนารูปแบบร้านค้าและการขยายช่องทางการตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน ธุรกิจร้านค้าวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านในประเทศไทยมีจำนวน 13,000 ราย แบ่งเป็นกลุ่มวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ (Modern Trade) และผู้ค้าวัสดุก่อสร้างดั้งเดิม (Traditional trade) ต้องใช้กลยุทธ์เดินหน้าบุกตลาดออนไลน์เต็มรูปแบบ
อย่าง บริษัท เดอะ บานดี้ จำกัด กลุ่มบริษัท Start Up กาฬสินธุ์ ที่ออกแบบแพลตฟอร์มการซื้อขายวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้าน “บานดี้” (BAANDY Marketplace Platform) ให้บริการทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน แบบออมนิ (Omni Shopping) ซื้อขายออนไลน์และออฟไลน์ (ร้านค้าวัสดุก่อสร้างใกล้บ้าน) เข้าด้วยกัน ทำหน้าที่เป็นตลาดกลางเชื่อมต่อระหว่าง “เจ้าของบ้าน ร้านค้า ผู้ให้บริการ” รวมทั้งบริการช่างฝีมือ ที่เชี่ยวชาญด้านก่อสร้างซ่อมแซม และบริการติดตั้งครบวงจร พร้อมกับเทคโนโลยี AI ช่วยในการวิเคราะห์และทำการตลาดให้กับร้านค้า
โดยช่วงปีแรกๆ จะใช้งบ 20-30 ล้านบาทพัฒนาระบบบริหารจัดการ การตลาดและประชาสัมพันธ์ เปิดให้ร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วประเทศ เข้ามาลงทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งมีการคิดค่าธรรมเนียมจากการขายแต่ละครั้ง 3-7% ของยอดขาย รวมทั้งมีการเพิ่มโปรโมชั่น ทางเลือกในการจัดส่งสินค้า และแผนกลูกค้าสัมพันธ์หรือ CRM ที่คอยให้คำปรึกษาและแนะนำลูกค้า ซึ่งตั้งเป้าปี 2564 มีร้านค้าวัสดุก่อสร้าง เข้าร่วมในแพลตฟอร์ม 3,000 ร้านค้า และมีรายได้ 1,000 ล้านบาท
