Urban Lifestyle ท่ามกลางวิถึชีวิตที่เร่งรีบและหลากหลายในไลฟ์สไตล์คนเมือง เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่การก้าวเท้าออกจากบ้านและใช้ไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่อยู่นอกที่พักอาศัยตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แสนสิริอยากให้ทุกคนได้ปรับวิถีการใช้ชีวิตเพื่อให้มี Urban Lifestyle ที่มีความสุขอย่างแท้จริงในที่พักอาศัย ผ่านการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ “HAUS (เฮาส์)” ที่พัฒนาแนวคิดมาจากกระแสโลก ในเทรนด์ SLOW LIFE หรือการใช้ชีวิตอย่างละเมียดละไม ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เลี่ยงการใช้ชีวิตที่รีบเร่งเกินพอดี เข้ากับเทรนด์ ECO-LIVING หรือการใช้ชีวิตที่อิงอาศัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อความสมดุล พอเพียง และยั่งยืน ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติกลางเมืองใหญ่ จึงทำให้โครงการภายใต้แบรนด์ HAUS (เฮาส์) ต่างๆ ของแสนสิริ ที่พัฒนาโครงการในช่วงที่ผ่านมา ล้วนได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น HASU HAUS (ฮาสุ เฮาส์), MORI HAUS (โมริ เฮาส์) และ KAWA HAUS (คาวะ เฮาส์) บนพื้นที่ T77 ถนนสุขุมวิท77 รวมถึง TAKA HAUS (ทากะ เฮาส์) ซอยเอกมัย 12 รวมถึงล่าสุด OKA HAUS (โอกะ เฮาส์) สุขุมวิท36
“oka” ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “เนินเขา” “โอกะ เฮาส์” (oka HAUS) จึงได้รับการออกแบบในสไตล์ Urban Resort Condominium ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Retreat and Rebound” ที่สร้างเอกลักษณ์ให้ตัวอาคารโดดเด่น แต่กลมกลืนไปกับธรรมชาติที่รายล้อม อาทิ ความสูงสง่า นิ่ง สงบ รูปทรง และโทนสีของภูเขามาเป็นแนวคิดหลักของโครงการ ผสานความร่มเย็นของพื้นที่สีเขียวให้เข้ากันกับฟังก์ชั่นการใช้งานจริงที่พร้อมให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ละเมียดละไมไปกับธรรมชาติ รวมทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างแท้จริง
เริ่มต้นต้อนรับคุณกลับบ้านด้วย Welcome Lounge หรือล็อบบี้สวยตระการตา ที่มอบความสง่างามจากแรงบันดาลใจของหุบเขาที่เกิดจากการกัดเซาะของลม หรือจะปลดปล่อยความอ่อนล้าไปกับ Peace Pool สระว่ายน้ำยาว 40 เมตร ให้คุณผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติไปพร้อมชมวิวเมืองแบบ 180 องศาอย่างไร้ขอบเขต ไฮไลท์ด้วย Leisure Pool สระว่ายน้ำระบบธาราบำบัด (Hydrotherapy) ซึ่งมีระบบนวดผ่อนคลายด้วยสายน้ำเต็มรูปแบบแห่งแรกจากแสนสิริ และด้วยความสูงของอาคารจึงสรรค์สร้าง Sky Lounge บนชั้น 47 ให้คุณได้ปลดปล่อย เคลียร์สมองชมเส้นขอบฟ้าตัดกับวิวเมือง ใน Retreat Room ยังมาพร้อมกับเก้าอี้นวด OSIM uInfinity Luxe, เพื่อการพักผ่อนจนเกิดพลังสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ อย่างไม่รู้จบในการทำงานที่ Co – Working Space ที่ได้จัดเตรียมที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายให้ทุกความคิดลื่นไหล ไม่สะดุด พร้อมพื้นที่เชื่อมทางเข้ากับส่วน Co – Kitchen ที่สามารถโชว์ความเชฟในตัวคุณ โดยการนำผักสดจาก Farmshelf ที่มีการควบคุมการปลูกด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะจนเกิดเมนูสุขภาพใหม่ๆ
ที่ Rooftop ชั้น 47 ยังประกอบด้วย Sunset Deck และ Rooftop Cinematic Screen ที่ชั้นบนสุดของโครงการ เพลิดเพลินไปกับ Outdoor Theatre การนอนชมภาพยนตร์ท่ามกลางสายลมธรรมชาติ หรือดื่มด่ำความงดงามของพระอาทิตย์ตกเคียงคู่วิวโค้งน้ำบางกระเจ้าก็โรแมนติกไม่น้อย ที่สำคัญสำหรับสมาชิกตัวน้อย ยังออกแบบพื้นที่สำหรับครอบครัวอย่าง Playspace ช่วยเสริมทักษะการเรียนรู้กับ Educational Playground ที่ออกแบบร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช นอกจากความโดดเด่นในการเป็นรีสอร์ทคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่เป็นจุดแข็งของโครงการแล้ว ยังแตกต่างด้วยเทคโนโลยี Smart Living ที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบายตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโครงการ กับการผสานเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์แนวคิดการใช้ชีวิตใหม่ ที่แค่คลิก…ชีวิตก็ลื่นไหล และควบคุมทุกสิ่งง่ายๆ ด้วยปลายนิ้วสัมผัส อาทิ
Smart Access กับล็อบบี้ VDO Door Phone & Digital Door Lock ให้คุณสามารถเปิดรับเพื่อนสนิท หรือคนใกล้ตัวได้แบบไม่ต้องก้าวเท้าออกจากห้องเพียงส่ง QR Code เพื่อปลดล็อคประตูตั้งแต่หน้าโครงการ
Smart Facilities มอบความสะดวกในการใช้บริการผ่านระบบออนไลน์ ได้แก่ Facilities Booking เปลี่ยนพื้นที่ส่วนกลางให้กลายเป็นพื้นที่ส่วนตัว ด้วยการจองสิทธิ์ใช้งานพื้นที่ส่วนกลางผ่านมือถือ พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาจองSmart Mail Box ระบบแจ้งเตือนการรับจดหมาย หรือพัสดุผ่าน ก็สามารถใช้ QR Code ปลดล็อคตู้จดหมายโดยไม่ต้องใช้กุญแจ Smart Locker ซึ่งสามารถแจ้งเตือนเวลาที่มีพัสดุมาส่งผ่าน Sansiri Home Application และรับสิ่งของได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน QR Code เช่นกัน EV Charger จุดบริการชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Farmshelf เพลิดเพลินกับการปลูกผักได้ตามใจไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน โดยการควบคุมการเจริญเติบโตผ่าน Application ให้พร้อมเก็บเกี่ยวทำเมนูโปรดได้ตามต้องการ
Smart Unit ภายในห้องพักอาศัยส่วนตัว ได้แก่ Home Automation ด้วยการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้อง เช่นการควบคุมไฟ แอร์ ทีวี แม้ไม่ได้อยู่ในห้องผ่าน Application บนมือถือส่วนตัว เพื่อเตรียมห้องให้พร้อมต้อนรับคุณกลับบ้าน Touchpad ชีวิตสบายขึ้นด้วยปลายนิ้วผ่านจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เพื่อควบคุมระบบต่างๆ ภายในห้อง เชื่อมต่อ VDO Door Phone ที่ล็อบบี้, ติดต่อนิติบุคคล เช็คสถานะ Mail Box จองใช้บริการส่วนกลาง เช็คค่าน้ำค่าไฟ รวมถึงการพูดคุยแชทกับเพื่อนบ้านในคอนโดมิเนียมได้ทันที
รวมถึงการออกแบบที่เน้นความยั่งยืนสู่การพักอาศัยด้วยระบบ Air Ventilation System นวัตกรรมระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้องพักโดยสามารถเพิ่มการระบายอากาศภายในห้องได้มากขึ้นถึง 60% ให้อากาศบริสุทธิ์เข้าไปแทนที่ลดความชื้น และความร้อนสะสม รวมถึงการออกแบบภายในห้องพักแบบ Bay Window มาพร้อมหน้าต่างแบบ Full Height ที่เปิดรับมุมมองได้ 180 องศา ช่วยทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกและสามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน เป็นมุมคิดงานเงียบสงบ ปลดปล่อยไอเดียสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ สร้างสรรค์มุมส่วนตัวได้ตามไลฟ์สไตล์
“โอกะ เฮาส์” (oka HAUS) คอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ สูง 46 ชั้น จำนวนทั้งสิ้น 1,178 ยูนิต ประกอบด้วยห้องขนาด 1 – 3 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 26.50 – 86.50 ตร.ม. บนพื้นที่โครงการประมาณ 5 ไร่ บนถนนพระราม 4 ใกล้สุขุมวิท 36 เชื่อมต่อถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 อีกหนึ่งย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯและเป็นจุดเชื่อมต่อใจกลางเมือง ทองหล่อ – อโศก – สีลม และใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น K-Village และ EmQuartier ครบด้วยศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล สถานศึกษา โรงแรม ฯลฯ แต่ยังคงความสงบและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการพักผ่อนตามคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ HAUS การเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อเพียง 5 นาที พร้อม Shuttle Service รับ-ส่งจากโครงการไปยังรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อ ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร และอาจณรงค์ จึงเดินทางถึงทุกจุดหมายได้เพียงไม่กี่นาที