อสังหาฯครึ่งปีหลัง ลดเปิดโครงการใหม่ เน้นระบายสต๊อก คาดฟื้นตัวครึ่งปีแรก 64
ท่ามกลางกระแสการเมืองที่ร้อนแรง กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ต่างพยายามปรับตัวเพื่อช่วยพยุงธุรกิจในอยู่รอดในปีนี้ และมีความหวังนโยบายของรัฐบาลจะช่วยกระตุ้นยอดขายก่อนจะหมดปีนี้ได้
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) วิเคราะห์สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังของปี 2563 จากจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ และมูลค่าทั้งโครงการแนวราบ และแนวสูง รวมถึงการโอนกรรมสิทธิ์ สำหรับชาวต่างชาติ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และยังไม่ดีขึ้น ยังคงเป็นการระบายสินค้าเหลือขายมากกว่า ช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 2563 จำนวนยูนิตที่อยู่อาศัยเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวนการขาย และมูลค่าการขายของยูนิตใหม่จะปรับตัวน้อยลงจากครึ่งปีแรก
แต่อาจจะกลับมาฟื้นตัวแบบติดลบในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 และกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ของ2564 เป็นต้นไป ขณะที่ความต้องการที่อยู่ หรืออัตราการดูดซับต่อเดือนของที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังของโครงการแนวราบ และแนวสูงปรับตัวลดลงเหลือเพียง 1.7% จากครึ่งปีแรก 2.6% เทียบกับค่าเฉลี่ยปกติ 3.5% และมีจำนวนเดือนระบายสต๊อกเพิ่มขึ้นเป็น 52 เดือน จากครึ่งปีแรก 33 เดือน ซึ่งประเมินว่าสถานการณ์ในปี 2564 อัตราการดูดซับจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2% และมีจำนวนเดือนขายหมดดีขึ้นเหลือเฉลี่ย 40 เดือน
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า สภาพตลาดอสังหาฯ ไร้สัญญาณบวกเพราะยังไม่เห็นว่า ภาครัฐ จะออกมาตรการชัดเจน เข้ามาช่วยกระตุ้น ความต้องการอสังหาฯ ส่วนภาคสถาบันการเงินที่เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อพัฒนาโครงการ และ ปล่อยสินเชื่อซื้อที่อยู่อาศัยกลับยังเปราะบาง ถือเป็นการซ้ำเติมความกังวล ของผู้ประกอบการ อสังหาฯในปีหน้า จะต้อง หาทางรอดประคับประคองธุรกิจกันเอง วางกลยุทธ์อย่างระมัด ระวัง ท่ามกลางกำลังซื้อหดตัว ผู้ประกอบการที่ แบกสต็อกจำนวนมากจึงค่อนข้างหนัก ต้องเน้น การระบายสต็อกเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง โดยเฉพาะผู้ประกอบการอสังหาฯรายเล็ก ส่วน กลุ่มผู้ซื้อชนชั้นกลางมีรายได้ลดลง สวนทางกันกับราคาที่ดินและราคาขายที่อยู่อาศัย ที่สูงขึ้นตามทิศทางของต้นทุน ทำให้กำลังซื้อไม่เติบโตตามราคาที่ดิน ส่งผลทำโครงการ เปิดตัวใหม่อาจจะได้รับผลกระทบ
