อสังหาฯ ครึ่งปีหลังเร่งทยอยเปิดโครงการใหม่บ้าน – ทาวน์โฮมปรับรูปแบบรับวิถี New Normal
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) คาดการณ์ ว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในปี 2563 จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยอาศัยอัตราดอกเบี้ยขาลงและมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ไม่เกิน 5% เนื่องจากจะมีอุปทานใหม่ในตลาดเพิ่มขึ้น จึงแนะนำให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญในการบริหารอุปทานที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จรอการขาย เพื่อรักษาไม่ให้มีอุปทานสะสมอยู่ในตลาดมากเกินไป
ขณะที่ LPN Wisdom บริษัท ด้านการวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยจะติดลบ 5-7% ตามที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาฯ ปี 2563 มีแนวโน้มติดลบ 15-20% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ผ่านมากำลังซื้อไตรมาส 1 ปี 2563 พบว่า ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีอย่างต่อเนื่องทั้งแนวราบและอาคารชุด แต่รายได้ของผู้ประกอบการลดลง เฉลี่ย 30.43% ในไตรมาสแรกมาจากการที่ไม่สามารถโอนให้กับผู้ซื้อต่างชาติเพราะการแพร่ระบาดโควิด-19 และนักลงทุนบางส่วนมีการชะลอการลงทุนด้วย
ทั้งนี้คาดว่า ตลาดอสังหาฯ จะค่อยๆ ฟื้นตัวในไตรมาส 3 และ4 ปีนี้ และจะมีการทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ที่ชะลอแผนเปิดตัวในไตรมาส 2 ประมาณ 50,000-55,000 ยูนิต มูลค่า 175,000-190,000 ล้านบาท ลดลง 50-55% เทียบกับระยะเดียวกันปี 2562 อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจ 29 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีสินค้าคงเหลือและโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 สูงถึง 576,406 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 6.74% จากปี 2562 ต้องใช้เวลาในการขายไม่น้อยกว่า 36 เดือน ทำให้แนวโน้มผู้ประกอบการเร่งขายโครงการเดิมแทนการเปิดโครงการใหม่ นอกจากนี้ แนวโน้มอสังหาฯ ในอนาคต อาจมีการปรับรูปแบบโครงการแนวราบ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต New Normal มากขึ้น ในทำเลที่มีกำลังซื้อสูงมากขึ้นด้วย