กองทุนอสังหา แหล่งลงทุนสำหรับมือใหม่
มองไปทางไหนก็จะเห็น การก่อสร้างตึกต่างๆ เต็มไปทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่อาคารให้เช่า ศูนย์การค้า โครงการมิกซ์ยูส และคอนโดมิเนียม ซึ่ง จะเห็นว่ารถไฟฟ้าเปิดสายไหน คอนโดก็จะตามไปเปิดตัวทุกครั้ง เพราะปริมาณความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเช่าหรือซื้อขาด
สำหรับใครที่กำลังมองหาการลงทุน อสังหาริมทรัพย์จึงเป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์ เพราะซื้อขายได้ง่ายกว่าบ้าน รวมทั้งเห็นผลตอบแทนที่ชัดเจน แต่รู้ไหมว่า นอกจากการซื้อคอนโดมิเนียมแล้วปล่อยเช่า หรือซื้อมาพัฒนา ขายต่อ จะเป็นการลงทุนอสังหาอย่างหนึ่งแล้ว ยังมีวิธีการอีกแบบที่ทำให้คุณสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้อีกแบบ ที่เรียกว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการระดมเงินจากนักลงทุน จากการขายหน่วยลงทุน และนำเงินที่ได้ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ผลตอบแทนหรือรายได้ที่ได้รับจากการบริหารอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว จะแบ่งเป็นเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีฐานะเป็นเจ้าของสินทรัพย์ แต่เนื่องจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ได้เปลี่ยนรูปแบบกองทุนรวมอสังหาฯ ใหม่ ทำให้ปัจจุบันกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มี 2 รูปแบบ คล้ายกองทุนรวมอสังหาฯเดิม คือ
1. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มีความแตกต่างจากเดิม ในเรื่องของกฏเกณฑ์และข้อกำหนดต่างๆ
2. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ระดมทุนจากผู้ลงทุน เพื่อนำเงินไปลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบขนส่งทางราง โรงไฟฟ้า ระบบโทรคมนาคม ระบบประปา ถนน ทางด่วน สนามบิน เป็นต้น
สำหรับวิธีการลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เริ่มจาก
- เลือกประเภททรัพย์สินที่ลงทุน
- ศึกษาผลตอบแทนการลงทุนแต่ละสินทรัพย์ เช่น หากลงทุนในโรงแรมต้องดู อัตราการเข้าพักเฉลี่ยในแต่ละช่วงเป็นอย่างไร หรือ เป็นศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า อาจจะต้องเช็คทำเล ปริมาณลูกค้าเฉลี่ยในแต่ละวัน รายได้ของศูนย์การค้า สัดส่วนรายได้จากค่าเช่า แบะส่วนอื่นๆ เป็นอย่างไร
- พิจารณากรรมสิทธิ์สินทรัพย์เป็นแบบซื้อขาด หรือเช่าเพื่อช่วยคำนวณในเรื่องผลตอบแทนในเรื่องเงินปันผล ซึ่งหากเป็นสิทธิการเช่าจะมีการจ่ายผลตอบแทนแบบเงินปันผลและเงินต้นคืนบางส่วน
- หาตัวแทนที่น่าเชื่อถือช่วยกระจายเงินลงทุนในกองทุนอสังหาฯ โดยอาจจะหาข้อมูลจาก ผลประกอบการของตัวแทนนั้นๆ
อย่างไรก็ตามขอเตือนทุกครั้งว่าการลงทุนมีความเสี่ยง เพราะฉะนั้นต้องศึกษาให้ละเอียดก่อนการตัดสินใจทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นการลงทุนจะกลายเป็นหนี้ก้อนโตทีหลังก็ได้