เอกชนไทยเสนอมาตรการฟื้นเศรษฐกิจรับมือสงครามอิหร่าน-อเมริกา
หลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้สหรัฐอเมริกาเนื่องจากพล.ต.กัสเซม โซเลมานี ผู้นำกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านถูกปลิดชีพซึ่งนายโดนัลล์ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาแจ้งว่านายทหารรายนี้เตรียมวางแผนระเบิดสถานทูตอเมริกาทำให้ทหารอเมริกาเสียชีวิตไปหลายคนก็ทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดราคาน้ำมันและทองคำผันผวนโดยเฉพาะราคาทองคำที่ราคาดีดตัวสูงในรอบ 6 ปีรวมถึงยังทำให้ทั่วโลกต่างจับตามองเหตุการณ์นี้อย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว
ฝั่งประเทศไทยเองถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงแต่ก็ต้องยอมรับว่าทำให้ประเทศตื่นตัวกับการรับมือเช่นกันล่าสุดนายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยตัวแทนภาคเอกชนเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่ยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและความผันผวนของค่าเงิน และความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางได้แก่ ลดค่าไฟ ให้เฉพาะธุรกิจ SMEs และบ้านพัก ร้อยละ 5 เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนและภาคธุรกิจ, เร่งรัดการคืนภาษี VAT ให้รวดเร็วภายในเวลา 30วัน, ลดภาษีนำเข้าเครื่องจักรใหม่เพื่อการผลิตซึ่งประเทศไทยผลิตเองไม่ได้ ลงเหลือ 0% เป็นระยะเวลา 1 ปี, ลดการจ่ายเงินประกันสังคมของผู้ประกันสังคม ทั้งลูกจ้าง และนายจ้าง ลงร้อยละ 50 เป็นระยะเวลา 6 เดือน และลดค่าธรรมเนียมการโอนเงินและค่าการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ไม่เกิน 50 ล้านบาท ให้เป็น 0.01% เป็นระยะเวลา 1 ปี
ขณะเดียวกันเสนอให้มีการขุดบ่อกักเก็บน้ำในรูปแบบของแก้มลิงในแต่ละหมู่บ้าน (ประมาณ 70,000 หมู่บ้าน) เพื่อช่วยแก้วิกฤติภัยแล้งในระยะยาว, พัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ (NEC) จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการผลิตอาหาร และ Creative Economy ภาคอีสาน(NEEC) ศูนย์กลางการท่องเที่ยว อาหาร และ Logistics hub ภาคใต้ (SEC) พัฒนา ให้เป็นเมืองอัจฉริยะและท่องเที่ยว รวมถึงอุตสาหกรรมฮาลาล เป็นต้น รวมถึงให้ คณะกรรมการ่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เข้าไปมีส่วนร่วมในคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ เพื่อปรับปรุงระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐให้คล่องตัว และสนับสนุนสินค้าไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีตัวแทนภาคเอกชนได้วิเคราะห์สถานการณ์สหรัฐและอิหร่านว่าอาจจะส่งผลกระทบในเรื่องการส่งออกสินค้าของไทยในอิหร่านอย่างยางพาราและผลไม้กระป๋องและสินค้าที่ส่งออกไปยังอิรักเข่นรถยนต์อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนและข้าวขณะที่การนำเข้าอาจจะกระทบถึงน้ำมันสุทธิที่ไทยนำเข้าอีกด้วย