• 21 พฤศจิกายน 2024
  • Thailand

รับมือสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน กระทบตลาดอสังหาฯ

รับมือสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน กระทบตลาดอสังหาฯ

รับมือสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน กระทบตลาดอสังหาฯ




เรียกว่าเป็นปัญหาเรื้อรังมาอย่างต่อเนื่องกับประเด็นสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ และจีน ซึ่งมีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของโลก และไทยเองอาจได้รับผลกระทบในภาคการส่งออก สอดคล้องกับข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/62  มีอัตราการขยายตัวเพียง 2.8% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 17 ไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาส 4/57 โดยให้เหตุผลว่าภาคการส่งออกที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยได้ปรับตัวลดลงจากผลกระทบของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจประเทศคู่ค้า รวมไปถึงแรงกดดันจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน


นอกจากนี้ศูนย์วิจัยกสิกรเคยมีการประเมินถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าในระยะนี้ตลาดสหรัฐฯ กับจีนจะมีภาพที่ไม่แน่นอนอันอาจส่งผลให้การส่งออก สินค้าไทยไปทั้ง 2 ตลาดดังกล่าวไม่ราบรื่น แต่คาดว่าทั้งสองประเทศก็ยังจะเป็นตลาดที่มีบทบาทขับเคลื่อนการส่งออกของไทย ถ้าหากเกมการค้าทวีความรุนแรงขึ้นโดยขยายวงกว้างกีดกันการค้าไปสู่สินค้ารายการอื่นเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจไทย อาจต้องเผชิญอุปสรรคในการทำตลาดทั้งสองจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่ส่งผลต่อสินค้าไทยทั้งทางตรง และทางอ้อม


ไม่เพียงกระทบต่อการส่งออก และยังกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ที่อาจจะทำให้กระทบต่อภาคธุรกิจอื่นๆ ด้วย รวมไปถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยในช่วง 1-3 ปีที่ผ่านมาทุนจีนเข้ามามีบทบาทในธุรกิจอสังหาฯ ไทยมากขึ้น ทั้งการเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยและการเข้ามาร่วมลงทุนกับดีเวลลอปเปอร์ชาวไทย ทั้งนี้ข้อมูลจากสมาคมอาคารชุดเปิดเผยว่ากลุ่มผู้ซื้อชาวจีน ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญในตลาดคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มชะลอการซื้อ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจของจีน ค่าเงินหยวนลดลง รวมทั้งมาตรการรัฐบาลจีนที่จำกัดการโอนเงินออกนอกประเทศ จากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจจีน ส่วนสำคัญอาจมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ


โดยดีเวลลอปเปอร์ได้แย้มถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าวด้วย ‘สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์’ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง ระบุว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา หลังการประกาศมาตรการคุมสินเชื่อ หรือแอลทีวี ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้อัตราการจองโครงการใหม่ของพฤกษาลดลง 10-25% ต่อโครงการ เนื่องจากลูกค้าต้องใช้เวลาในการเก็บเงินดาวน์เพิ่มขึ้น และยอดปฏิเสธสินเชื่อก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันเป็น  7-8% ประกอบกับเศรษฐกิจที่อ่อนไหวของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเข้ามาซ้ำเติม ดังนั้นด้วยปัจจัยที่เกิดขึ้นทั้งมาตรการแอลทีวี และสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน ส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดอสังหาฯ ดีเวลลอปเปอร์ต้องมีวางกลยุทธ์ เพื่อไม่ให้ภาพรวมธุรกิจชะลอตัวลงมากกว่าเดิมด้วย