‘แลนดี้ โฮม’ บุกเชียงใหม่ ชูนวัตกรรมสร้างบ้านปลอดฝุ่น PM2.5 ตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้าน ในปี 2567
นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย แลนดี้ โฮมประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การเปิดศูนย์รับสร้างบ้านแลนดี้ โฮมสาขาเชียงใหม่ นับเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจ และพื้นที่การบริการ ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย ภายใต้มาตรฐานเดียวกันกับกรุงเทพฯ จากข้อมูลการสำรวจตลาดรับสร้างบ้านในโซนภาคเหนือพบว่า มีกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการสร้างบ้าน ในจังหวัดเชียงใหม่มากที่สุด เราจึงตัดสินใจเปิดสาขาเชียงใหม่ เป็นสาขาที่ 9 ซึ่งเป็นสาขาแรกในพื้นที่ภาคเหนือ โดยจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีการขยายตัว และเศรษฐกิจเติบโตสูง จึงเป็นโอกาสในการขยายตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีงบประมาณปลูกสร้างบ้านในระดับราคา 8-20 ล้านบาท ซึ่งแลนดี้ โฮม สาขาเชียงใหม่ สามารถให้บริการครอบคลุม ทั้งลูกค้าที่ต้องการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่ และในจังหวัดใกล้เคียงอย่างเช่นจังหวัดเชียงราย,ลำปาง,แพร่,ลำพูน เป็นต้น
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก ของปี 2567 แลนดี้ โฮม มียอดขายรวมสูงถึง 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนผลประกอบการตามยอดขายของบริษัทในเครือ 3 แบรนด์ดังนี้ Landy Grand: บ้านหรูขนาดใหญ่ (ราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป) มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 22% Landy Home: บ้านขนาดกลาง (ราคา 8-20 ล้านบาท) มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 53% Trendy Home: บ้านขนาดเล็ก (ต่ำกว่า 8 ล้านบาท) มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 25% จากผลประกอบการในครึ่งปีแรกนี้ นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของศูนย์รับสร้างบ้านแลนดี้ โฮม ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานการก่อสร้างและการบริการที่เป็นเลิศ ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความไว้วางใจจากลูกค้า แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของแลนดี้ โฮม ในการเป็นผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านที่บริการครบวงจรพร้อมเทคโนโลยีการอยู่อาศัยเพื่อสุขภาพที่ดี
“ แลนดี้ โฮม พร้อมที่จะเดินหน้าสู่ครึ่งปีหลังด้วยแผนการขยายธุรกิจและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ในการยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ถึงแม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายเรื่องต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้น แต่เราก็ได้วางแผนกลยุทธ์ควบคุมต้นทุน (Cost Management in Construction) ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานก่อสร้าง และมีการก่อตั้ง พรีคาสท์ โซลูชัน เซ็นเตอร์ (Precast Solution Center) ภายใต้ชื่อ บริษัท NOVA Modular โรงงานผลิตโครงสร้าง เสา-คาน สำเร็จรูป ซึ่งปัจจุบันมี 2 โรงงาน ประกอบด้วย โรงงานที่พระราม 2 และ โรงงานที่ อ.วิหารแดง จังหวัดสระบุรี เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าที่ปลูกสร้างบ้านทั้ง 3 แบรนด์ในเครือ นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยี AI เพื่อช่วยในด้านการวิเคราะห์และพัฒนาแบบบ้าน ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงตามความต้องการทุกไลฟ์สไตล์” คุณพรรัตน์ กล่าว
ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มองว่าธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายภาครัฐที่มีแผนกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาทิ มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการของตลาดให้กลับมาคึกคักมากยิ่งขึ้น บริษัทฯจึงวางกลยุทธ์การดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2567 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ใน 3 แบรนด์หลัก ดังนี้เทรนดี้ โฮม (Trendy Home) บ้านระดับราคาต่ำกว่า 8 ล้านบาท บ้านสำหรับเริ่มต้นสร้างครอบครัว ด้วยแนวคิด “Trendy Home – Live in Trend” นำเสนอความคุ้มค่าที่เหนือกว่าการซื้อบ้านจัดสรร ด้วยการให้ลูกค้าได้ดีไซน์บ้านตามต้องการ มีแบบบ้าน In Trend สวย ทันสมัยให้เลือกมากมาย ตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ เน้นตลาดสร้างบ้านขนาดเล็กในช่วงราคาต่ำกว่า 8 ล้านบาท ใช้วัสดุคุณภาพสูง พร้อมนวัตกรรมที่ทันสมัยตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่ว่า “สร้างบ้านสวย คุณภาพสูง คุ้มค่าในระยะยาว” แลนดี้ โฮม (Landy Home) บ้านระดับราคา 8-20 ล้านบาท ในฐานะผู้นำด้านการสร้างบ้านอันดับ 1 ของประเทศไทย แลนดี้ โฮม มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิด “Always Ahead ก้าวก่อนใครในทุกด้าน” พร้อมนำเสนอการดีไซน์ฟังก์ชันใหม่ล่าสุดสำหรับบ้านสมัยใหม่ที่เรียกว่า “Pet Friendly” เน้นการออกแบบบ้านให้เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงที่เป็นสมาชิกในครอบครัว และระบบการหมุนเวียนอากาศ เติมอากาศใหม่ที่ดีเพื่อลดกลิ่นและให้สัตว์เลี้ยงหายใจสะดวกมากยิ่งขึ้น แลนดี้แกรนด์ (Landy Grand) บ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป แลนดี้ แกรนด์ มุ่งมั่นตอกย้ำตำแหน่งผู้นำ สร้างบ้านหรู หลังใหญ่ ราคาคุ้มค่า ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ ในการให้บริการครบวงจร ทำให้การสร้างบ้านหรูเป็นเรื่องง่าย ออกแบบนวัตกรรมเพื่ออยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ Luxury Segment บ่งบอกเอกลักษณ์และความเป็นตัวตนของลูกค้าอย่างแท้จริง พร้อมด้วยบริการ One Stop Service ครบจบที่เดียว
นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า กลยุทธ์สำหรับการเจาะตลาดรับสร้างบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงแรกจะเน้นการสร้าง Brand Awareness ให้แลนดี้ โฮมเป็นที่รู้จักและสร้างการจดจำไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายผ่านสื่อ Offline และ Online ตลอดจนมีการประชาสัมพันธ์ผ่าน Influencer ท้องถิ่น เพื่อช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์แลนดี้ โฮม ในฐานะศูนย์รับสร้างบ้านอันดับ 1 จากกรุงเทพฯ ที่มีความมั่นคงด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท การันตีด้วยผลงานการก่อสร้างกว่า 8,000 หลัง นอกจากนี้ แลนดี้ โฮม ได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ของการสร้างบ้าน สำหรับลูกค้าที่เชียงใหม่ คือนวัตกรรมบ้านสุขภาพดี นับเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง หรือผู้รับเหมาท้องถิ่น โดยบ้านที่สร้างจากแลนดี้ โฮมทุกหลัง จะใช้เทคโนโลยีการติดตั้งระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ CAP+ (แคป พลัส) ปกป้องสมาชิกในครอบครัวจากฝุ่น PM 2.5 และเชื้อแบคทีเรีย โดยสร้างสภาวะแรงดันบวกในบ้านเสมือนห้องปลอดเชื้อในโรงพยาบาล ช่วยให้บ้านสะอาด ลดอาการภูมิแพ้ ไอ จาม และหอบหืด พร้อมเติมอากาศบริสุทธิ์เพื่อการนอนหลับที่ดี ลดปัญหาบ้านอับชื้น ช่วยทำให้สมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพที่ดี ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากครอบครัวที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์
สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักในจังหวัดเชียงใหม่ จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ไม่มีเวลาคุมงาน ต้องการสร้างบ้านหลังใหญ่ และมองหาบริษัทรับสร้างบ้านขนาดใหญ่ที่ดูแลครบจบทุกขั้นตอน สามารถคุมงบประมาณได้ และต้องการนวัตกรรมที่ช่วยลด ปัญหาฝุ่น PM 2.5 กลุ่มลูกค้าที่ทำงานในกรุงเทพฯ ที่ต้องการสร้างบ้านพักตากอากาศ หรือสร้างบ้านให้พ่อแม่ หรือสำหรับอยู่เอง หลังเกษียณ กลุ่มลูกค้าที่มีธุรกิจในต่างประเทศ หรือคู่สมรสของชาวต่างชาติ ที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และไม่มีเวลาดูงานก่อสร้าง จึงต้องการผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลงานแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร รวมถึงต้องการรับประกันโครงสร้างที่ยาวนาน
“จากการสำรวจ Insight ของลูกค้าเชียงใหม่ มีความต้องการแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น 2-3 ชั้น ด้วยงบประมาณระดับปานกลาง – สูง ต้องการสร้างบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ และต้องการบริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร มีมาตรฐานงานก่อสร้าง และไม่ต้องเสียเวลามาควบคุมงาน ลดปัญหาจุกจิกหน้างาน โดยแลนดี้ โฮมเน้นการพัฒนาการออกแบบแบบบ้าน และฟังก์ชันการใช้งาน ตลอดจนพัฒนามาตรฐานโครงสร้าง และนวัตกรรมการอยู่อาศัย ให้สอดคล้องเหมาะสมต่อการใช้ชีวิตของคนเชียงใหม่โดยเฉพาะ โดยคาดว่านวัตกรรมบ้านสุขภาพดีจะได้รับการตอบรับจากคนเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง และตั้งเป้ามียอดขายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทในปีนี้” คุณภัทรา กล่าว