CPAC Green Solution ชูจุดเด่นปูนสูตร Low Carbon ลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 27% มุ่งสู่ Net Zero ปี 2050
นางสาวกัลยา วรุณโณ Green Solution and New Business Marketing Director ในธุรกิจ Cement and Green Solution Business ภายใต้ SCG เปิดเผยว่า CPAC Green Solution ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมก่อสร้างเพื่อสิ่งแวดล้อมครบวงจร ซึ่งถือเป็นรายแรกที่นำเทคโนโลยี 3D Concrete Printing (คอนกรีต 3 มิติ) เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างของเมืองไทย ซึ่งเป็นการสร้างแบบดิจิทัลจากเครื่องพิมพ์สามมิติที่สามารถคำนวณการใช้งานวัสดุคอนกรีตได้อย่างแม่นยำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งช่วยลดขยะเหลือใช้จากงานก่อสร้างได้
“เราเห็นโอกาสที่จะเข้ามาช่วยยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างของเมืองไทย จึงริเริ่มพัฒนานวัตกรรมก่อสร้าง รูปแบบใหม่ CPAC 3D Printing Solution จาก 3D Concrete Printing ตั้งแต่ปี 2014 เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละไลฟ์สไตล์ตั้งแต่ต้นทาง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ ผู้รับเหมาก่อสร้าง นักออกแบบ ไปถึงเจ้าของบ้าน กระทั่งปัจจุบันบริษัทฯ ก็ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยความพิเศษของนวัตกรรมดังกล่าว คือ ความสามารถในการก่อสร้างรูปทรงได้อย่างฟรีฟอร์มหรือที่เรียกว่า Parametric Design ช่วยให้การก่อสร้างผนังที่มีความโค้งและลวดลายพลิ้วไหวได้อย่างเป็นอิสระตามความต้องการ ซึ่งรูปแบบนี้การก่อสร้างในปัจจุบันยังทำได้ค่อนข้างยาก โดยที่ผ่านมาค่อนข้างได้ผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี”
นางสาวกัลยา กล่าวต่อไปว่า ปีนี้บริษัทฯ ยังมีการขยายให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ตามแนวคิดการดำเนินงาน “A PART OF YOUR SUCCESS: เคียงข้างทุกความสำเร็จของคุณ” ได้แก่ Decoration กลุ่มงานตกแต่ง ด้วยดีไซน์ที่แตกต่างอย่างมีสไตล์, Landscape & Sculpture กลุ่มงานประติมากรรมที่สามารถรังสรรค์พื้นที่ให้เป็น ICONIC แห่งอนาคต, Construction กลุ่มงานก่อสร้าง กับการก่อสร้างอาคาร 2 ชั้นครั้งแรกของเมืองไทย และ Coral Reef กลุ่มงานเพื่อฟื้นฟูแนวปะการังใต้ทะเล และเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ล่าสุด จึงได้พัฒนาปูนซีเมนต์สูตรพิเศษที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตที่เน้นการใช้พลังงานทดแทน รวมทั้งเทคโนโลยี Materials Science เพื่อให้ได้ปูนสูตร Low Carbon สำหรับขึ้นรูปชิ้นงานด้วยนวัตกรรม CPAC 3D Printing Solution โดยเฉพาะ ซึ่งความพิเศษของปูนสูตรนี้คือในทุก 1 ตันจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 27% หรือประมาณ 65 kg CO2 เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ประมาณ 7 ต้น เมื่อเทียบกับปูนสูตรปกติ นับเป็นผู้ผลิตเจ้าแรกของเมืองไทย
“ในอนาคตบริษัทฯ ก็จะไม่หยุดพัฒนาปูนซีเมนต์ที่มีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ มุ่งสู่ Net Zero ในปี 2050 พร้อมเสริมความหลากหลายของสินค้าที่มีคุณสมบัติครอบคลุมการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น และมั่นใจว่าประสบการณ์ที่เราได้วิจัยพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า สามารถยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างของประเทศไทย ให้เติบโตอย่างยั่งยืน”