“PropertyGuru ” ชูรางวัลใหม่ ESG เด่นเรื่องลงทุน อยู่ร่วมกับธรรมชาติ ชี้ตลาดอสังหาฯ เผชิญความท้าทาย พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน
นายจูลส์ เคย์ ผู้จัดการทั่วไป พร็อพเพอร์ตี้กูรู เอเชีย พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ แอนด์ อีเวนต์ กล่าวว่า “PropertyGuru Thailand Property Awards ครั้งที่ 19 ถือเป็นเวทีที่เน้นย้ำถึงความน่าเชื่อถือ ความมั่นคง และความยั่งยืน ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ผู้ซื้อ รวมถึงนักลงทุนทั้งคนไทยและต่างประเทศให้ความสำคัญมาก เพื่อเตรียมลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดเท่านั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในการปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างการยอมรับและความสำเร็จ โดยการจัดงาน PropertyGuru Thailand Property Awards ครั้งที่ 19 นี้ เป็นความภาคภูมิใจในการยกย่องผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีผลงานโดดเด่นท่ามกลางอุปสรรคต่างๆ ในรอบปีที่ผ่านมา”
นางสุพินท์ มีชูชีพ ประธานคณะกรรมการตัดสินรางวัลในประเทศไทยและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น เอกซ์ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า “อยากขอเรียนเชิญทุกคนในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยเข้าร่วม PropertyGuru Thailand Property Awards ครั้งที่ 19 เวทีที่มอบรางวัลอันทรงเกียรติให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ทำผลงานดีเด่นมายาวนานที่สุดในประเทศไทย โดยงานปีนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์ที่โดดเด่นต่างๆทั้งในกลุ่มราคาคุ้มค่าไปจนถึงตลาดลักชัวรี ขณะเดียวยังยกย่องบริษัทต่างๆ ที่ได้ดำเนินธุรกิจตามหลักการ ESG (Environmental, Social, and Governance) ซึ่งมีความสำคัญต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยในอนาคต
โดยปีนี้เตรียมประกาศการตัดสินรางวัลกว่า 226 ประเภท เพื่อเป็นเกียรติแก่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นักออกแบบและโครงการทั่วประเทศ รวมถึงการเพิ่มหมวดใหม่ รางวัล ESG เพื่อยกย่องบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ยอดเยี่ยมด้านการออกแบบที่ยั่งยืน การก่อสร้าง ที่ยั่งยืน ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และส่งผลกระทบต่อสังคมน้อยที่สุด ประเภทรางวัลที่ขยายเพิ่มขึ้นในปีนี้มาจากการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป ของผู้บริโภค
นายวิทยา อภิรักษ์วิริยะ ผู้จัดการทั่วไป ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (ฝั่งดีเวลลอปเปอร์) และ Think of Living กล่าวว่า รายงานของ DDproperty Thailand Property Market Report ประจำไตรมาส 1/ 2567 ระบุว่า การปรับค่าแรงขั้นต่ำ และค่าก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ราคาบ้านในประเทศไทยปรับราคาสูงขึ้นตามลำดับ โดยดัชนีราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ได้เพิ่มขึ้นกว่า 2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/ 2566 แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปัจจุบันจะเผชิญกับความท้าทายรอบด้านแต่กลุ่มผู้ซื้อและนักลงทุนยังคงแสดงความสนใจ ในการเป็นเจ้าของอสังหาฯ โดยให้ความสำคัญกับบริษัทนักพัฒนาที่มีคุณภาพ และดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืน จากการศึกษาความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ DDproperty ประเทศไทย ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 พบว่า 43% คนไทยตั้งใจที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในปีถัดไป นอกจากนี้คนไทยประมาณ 88% เต็มใจที่จะจ่ายเงินเพิ่มสูงขึ้นเพื่อซื้อบ้านที่มีคุณสมบัติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ นอกจากนั้น ในการเลือกซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ คนไทยส่วนใหญ่จะคำนึงถึงคุณภาพของอุปกรณ์ตกแต่งภายใน (48%) ผลงานของโครงการที่ผ่านมา (46%) และเสถียรภาพทางการเงินของบริษัทฯ (46%)
