“ลลิล” เปิดตัวทาวน์โฮม ไลโอ ราชพฤกษ์ – ปทุมธานี มูลค่าโครงการมากกว่า 900 ลบ. ปลื้มกระแสตอบรับดี ชูทำเลศักยภาพ
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปัจจุบันทำเลกรุงเทพตอนบน ราชพฤกษ์และปทุมธานี เป็นทำเลที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้าน เพราะเป็นทำเลศักยภาพที่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้อย่างครบครัน ทั้งสนามบินดอนเมือง ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อาทิ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ศรีสมาน และ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ นอกจากนี้ยังมีแหล่งสถานศึกษาชื่อดังอย่าง โรงเรียนหอวังนนทบุรี, โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี, โรงเรียนปทุมวิไล, มหาวิทยาลัยปทุมธานี ฯลฯ โดยในย่านนี้มีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเพื่อเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายในการเดินทางด้วยถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก ที่มีความยาว 42 กิโลเมตร ถนนชัยพฤกษ์ ทางหลวง 345 และทางหลวง 346 ที่ตัดผ่าน 3 พื้นที่ ได้แก่ ราชพฤกษ์ตอนปลาย เชื่อมต่อจังหวัดปทุมธานี ราชพฤกษ์ตอนกลาง ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และเชื่อมต่อไปยังราชพฤกษ์ตอนต้น เข้าสู่เขตติดต่อกรุงเทพฯ และใจกลางเมืองย่านสาทร-สีลม ได้อย่างสะดวกสบาย หรือการเลือกใช้ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก เพื่อเลี่ยงการจราจรติดขัดได้ด้วยเช่นกัน
หากพิจารณาถึงกำลังซื้อในย่านดังกล่าว พบว่าทำเลราชพฤกษ์-ปทุมธานี เป็นทำเลที่มีประชากรในพื้นที่เกือบ 600,000 คน โดยแบ่งเป็นประชากรในพื้นที่ที่มีอยู่เดิมประมาณ 450,000 คน และมีจำนวนประชากรแฝงประมาณ 150,000 คน และเป็นกลุ่มประชากรที่มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 50,000-200,000 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีกำลังซื้อสูง โดยเป็นกลุ่มคนที่ทำงานในบริษัท และเจ้าของกิจการ จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านพักอาศัยทั้งทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยวที่ระดับราคาไม่เกิน 5-10 ล้านบาท เพื่อเข้ามาดูดซับกำลังซื้อที่มีอยู่ในปัจจุบัน
“ล่าสุด ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้เปิดตัวโครงการทาวน์โฮมใหม่ “ไลโอ ราชพฤกษ์ – ปทุมธานี” บนพื้นที่ 38 ไร่ รวม 423 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 900 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และสามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่ากำลังซื้อในตลาดที่ต้องการซื้อบ้านในทำเลราชพฤกษ์-ปทุมธานี ยังมีอยู่ จากการสำรวจความพึงพอใจของผู้ซื้อพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อมาจากแบบบ้าน French Colonial และสวนส่วนกลาง พร้อมคลับเฮ้าส์ที่มีขนาดใหญ่ และสามารถใช้งานได้จริงในทุกวัน รวมถึงปัจจัยหนุนด้านความสะดวกในการเดินทางเข้า-ออก เมือง โดยสามารถเชื่อมต่อการเดินทางด้วยทางด่วนพิเศษศรีสมานสู่สนามบินดอนเมือง หลักสี่ และย่านรังสิต ซึ่งรายล้อมด้วยสถานศึกษาและที่ตั้งสถานที่ทำงานชั้นนำได้ด้วย หรือจะเดินทางไปยังถนนพระราม 5 ด้วยเส้นทางราชพฤกษ์ตัดใหม่ก็สามารถทำได้ ทำให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์การหาที่อยู่ที่คุ้มค่า คุ้มราคาที่สามารถจับต้องได้” นายชูรัชฏ์ กล่าว
“แม้ราคาทาวน์โฮมในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะมีการปรับตัวสูงขึ้น เพราะหาที่ดินที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาโครงการคุณภาพได้ยากมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาดและมีแนวโน้มความต้องการสูงขึ้นในทุกปีเพราะมีฐานตลาดที่ใหญ่ นอกจากนี้กลุ่มคนรุ่นใหม่หรือกลุ่มคนเจนวายก็นิยมซื้อทาวน์โฮมกันมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่กลุ่มคนกลุ่มนี้จะมีทัศนคติที่ต้องการประสบความสำเร็จที่เร็ว และมีแนวโน้มที่จะเลือกแต่งงานช้า จึงอยากมองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในระยะยาว เพราะฉะนั้นทาวน์โฮมจึงจัดเป็นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมสำหรับคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ เพราะนอกจากราคาจะเหมาะสมแล้ว ทาวน์โฮมที่อยู่ใกล้เมืองยังสะดวกต่อการเดินทางไปทำงานได้อย่างคล่องตัว ทั้งฟังก์ชันภายในก็มีการแบ่งสัดส่วนที่มีประสิทธิภาพ สามารถปรับแต่งให้เข้ากับการใช้งานได้เป็นอย่างดี” นายชูรัชฏ์ กล่าวสรุป