• 22 พฤศจิกายน 2024
  • Thailand

“เอพี ไทยแลนด์” เปิดตลาดทาวน์โฮม 29 โครงการ มูลค่ารวม 25,200 ลบ.

“เอพี ไทยแลนด์” เปิดตลาดทาวน์โฮม  29 โครงการ มูลค่ารวม  25,200 ลบ.

“เอพี ไทยแลนด์” เปิดตลาดทาวน์โฮม 29 โครงการ มูลค่ารวม 25,200 ลบ.
ผ่าน 6 แบรนด์คุณภาพ เจาะอินไซต์คนเมืองทุกเซกเมนต์

นายเมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า “จากทิศทางการดำเนินธุรกิจที่เอพีปักธงปี 2565 เป็นที่สุดของปีกับการเดินหน้าฝ่าทุกข้อจำกัด ในส่วนของกลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เป้าหมายใหญ่ในการส่งมอบชีวิตดีๆ ที่ลูกค้าสามารถเลือกเองได้ พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมในเมืองอย่างต่อเนื่อง ผ่านแผนพัฒนาโครงการใหม่ทั้งหมด 29 โครงการ มูลค่ารวม 25,200 ล้านบาทนับเป็นการเปิดโครงการใหม่สูงที่สุด มูลค่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 6 เท่า ซึ่งนอกจากจะเป็นการเปิดใหม่ทดแทนโครงการเก่าที่ประสบความสำเร็จและปิดการขายไปจำนวนมาก ยังเป็นการบุกเบิกสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สู่การสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้กับวงการ โดยวางโรดแมปการพัฒนาภายใต้แกน ‘UNLOCK VERTICAL LIFE พื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกเองได้’ พลิกทุกข้อจำกัดนำเสนอความเป็นที่สุดในทุกมิติ ผสานสุนทรียะเข้ากับการใช้ชีวิตวิถีใหม่อย่างสมบูรณ์มุ่งสู่เป้าทาวน์โฮมเอพี ตัวเลือกแรกที่ดีที่สุด ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ในระดับราคาที่คุ้มค่าที่สุด ตอบรับกับ ดีมานด์จริง บนสุดยอดทำเลทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล”

กลุ่มทาวน์โฮมเอพีมองเทรนด์การใช้ชีวิตวิถีใหม่ในบ้านทุกรูปแบบจากนี้จะต้องรองรับชีวิตครบทุกมิติ ครอบคลุมความสุขทุกรูปแบบทั้งวันนี้และอนาคตมากขึ้น ซึ่งไม่ว่าคุณจะมีวิถีชีวิตแบบไหน ทาวน์โฮมเอพีพร้อมตอบความสุขในแบบคุณ ผ่านการเดินหน้าสร้างความต่างที่เหนือกว่าบุกตลาดเต็มกำลัง ส่งมอบ ความเป็นที่สุดของพื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกเองได้ ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย

1. เปิดตัว 20 แบบบ้านใหม่ จาก 6 แบรนด์ทาวน์โฮมคุณภาพ พลิกทุกข้อจำกัดงานดีไซน์สถาปัตยกรรมและสเปซฟังก์ชันในบ้านทั้งหมด นำเสนอประสบการณ์การอยู่อาศัยในทาวน์โฮมตอบเทรนด์ชีวิตวิถีใหม่ โดยมีไฮไลต์ต่อยอดความสำเร็จ ‘บ้านกลางเมือง’ แบรนด์ทาวน์โฮมในเมืองอันดับหนึ่งด้วย Market Share ยอดขายสูงสุดต่อเนื่อง หัวหอกหลักบุกตลาดทาวน์โฮมระดับบน (B Segment) ชูจุดต่างเหนือตลาดนำเสนอ ‘แบบบ้านที่คุณออกแบบเองได้’ ครั้งแรกในอุตสาหรรมอสังหาฯ กับทาวน์โฮมที่มอบประสบการณ์เหนือความคาดหมาย เพิ่ม “อิสระ” ให้ลูกค้าได้ออกแบบสเปซฟังก์ชันในบ้าน ได้ตรงความต้องการจริงของแต่ละครอบครัว

ซึ่งการพลิกโฉมครั้งนี้ จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง’ ที่จะไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัย แต่ยัง Empower ให้ผู้อาศัยได้เลือกใช้ชีวิตตามความต้องการมากกว่าเดิม รวมไปถึงการขยายขอบเขตหัวใจสำคัญของบ้าน พื้นที่ส่วนพักผ่อน รับประทานอาหารและครัวขนาดใหญ่ที่ชั้น 2 นวัตกรรมดีไซน์สเปซจากคุณเพื่อคุณ คิดจากอินไซต์จริงของลูกค้ากับชีวิตวิถีใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป เพิ่มความเหนือกว่าทั้งความเป็นส่วนตัวและมุมมองเปิดโล่งให้กับสมาชิกในบ้านได้ทุกช่วงเวลา และชั้น 3 ดีไซน์พิเศษรองรับสเปซ Penthouse Master Bedroom ขนาดใหญ่หรือเลือกเลย์เอาต์ดีไซน์ Master Bedroom ได้ถึง 2 ห้อง โดยทาวน์โฮมบ้านกลางเมือง ดีไซน์ใหม่ 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 167 ตารางเมตร จะนำร่องแฟล็กชิพแรกที่บ้านกลางเมือง พหลโยธิน – วิภาวดี ราคาเริ่มต้น 4.99 – 9 ล้านบาท และบ้านกลางเมือง ลาดพร้าว 101 สเตชั่น ราคาเริ่ม 5.99 ล้านบาท

“และในปีนี้ เอพีเตรียมเผยโฉมใหม่การกลับมาของแบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง คลาสเซ่’ ในรอบ 7 ปี ที่จะเข้ามารุกตลาดบ้านลักชัวรี่ใจกลางเมือง (A Segment) ทาวน์โฮมดีไซน์เล่นระดับ 3.5 ชั้น และ 3 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร พื้นที่ใช้สอย 259 ตารางเมตร ชูที่สุดของสเปซฟังก์ชันพื้นที่ส่วนตัว ตอบรับการอยู่อาศัยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมพื้นที่พักผ่อนดีไซน์เชื่อมต่อในแนวตั้งด้วยเพดานสูงกว่า 6 เมตร (Double – Volume Living) เปิดมุมมองให้ผู้พักอาศัยทุกหลังสามารถผ่อนคลาย เติมเต็มทุกประสบการณ์ของคำว่าบ้านใจกลางเมือง นำร่องแรกในทำเลสุขุมวิท 77 จำนวน 120 หลัง ราคาเริ่ม 14.9 ล้านบาท” นายเมธา กล่าวเพิ่มเติม


ทั้งนี้ ในส่วนของการรักษาการเติบโตในกลุ่มตลาดทาวน์โฮม 2 ชั้น (C+ Segment) ภายใต้แบรนด์ ‘พลีโน่’ ชูจุดขายบ้านหลังแรกที่ดีที่สุด โดยในไตรมาสแรกได้เปิดตัวแบบบ้านใหม่ไปแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ พลีโน่ วิภาวดี – ดอนเมือง และพลีโน่ ราชพฤกษ์ – สาทร นำเสนอทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ หน้ากว้าง 7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 132 ตารางเมตร ขยายทุกสเปซฟังก์ชัน โดยได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีมาก การันตีให้เห็นดีมานด์ลูกค้ายังคงมีต่อเนื่อง โดยเอพีเล็งปูพรมเพิ่ม 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6,730 ล้านบาท

2. ขยายตลาดทาวน์โฮม 2 ชั้นกระจายเพิ่มโซนปริมณฑล เอพีมองเห็นช่องว่างตลาดทาวน์โฮม C Segment ทำเลปริมณฑล จากการสำรวจตลาดพบว่าแบบบ้านทาวน์โฮมที่เสนอขายไม่สอดรับกับชีวิตวิถีใหม่ที่ลูกค้าคนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตในบ้าน จึงนำมาสู่การพัฒนาเปิดแบรนด์ใหม่ล่าสุด “พลีโน่ ทาวน์” ภายใต้จุดขาย “พื้นที่ความสุขทั้งชีวิต” นำเสนอทาวน์โฮม 2 ชั้นดีไซน์ใหม่ หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 107 ตารางเมตร เน้นฟังก์ชันครบ พร้อมการออกแบบพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย พื้นที่ส่วนกลาง ครบครันพร้อมฟิตเนสเปิด 24 ชั่วโมง แพ็กเกจราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายตอบอินไซต์ลูกค้าที่มองหาทาวน์โฮมใหม่สำหรับเริ่มต้นชีวิต โดยในปีนี้เตรียมบุกใหญ่ 6 โครงการ มูลค่ารวม 5,530 ล้านบาท เจาะครอบคลุม ทุกทำเลศักยภาพใกล้เมือง อาทิ โซนกรุงเทพฯ ตะวันออก – บางนา เทพารักษ์ โซนกรุงเทพฯ ตะวันตก – ปิ่นเกล้า พุทธมณฑล สาย 5 นนทบุรี และโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ – ลำลูกกา และรังสิตคลอง 5 เป็นต้น

3. เตรียมขยายแชร์ตลาดบ้านแฝด 3 ชั้นและ 2 ชั้นเพิ่มขึ้น เอพีประสบความสำเร็จในการบุกเบิก ตลาดบ้านแฝด 3 ชั้นในเมือง ผ่านแบรนด์ “บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น” ครองแชมป์เบอร์หนึ่งผู้นำตลาดด้วยการตอบรับจากลูกค้าและสามารถสร้างยอดขายสูงสุดต่อเนื่อง โดยจากการสำรวจตลาดล่าสุดพบแนวโน้มสินค้าบ้านแฝดในเมืองยังคงเป็นสินค้าที่เคลื่อนไหวดีตลอด 2 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2563 – 2564) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 29% จากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่ขึ้น ทำเลเมือง ในราคาที่คุ้มค่า และสำหรับการบุกตลาดในครั้งนี้ เอพีพร้อมนำประสบการณ์การพัฒนาสู่การต่อยอดแนวคิดในการออกแบบพื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกเองได้ นำเสนอสินค้าบ้านแฝดซีรีส์ใหม่ ผ่านแบรนด์ “บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น” บ้านแฝดดีไซน์ใหม่ 3 ชั้น หน้ากว้าง 9.8 เมตร พื้นที่ใช้สอย 218 ตารางเมตร และ “แกรนด์ พลีโน่” บ้านแฝดดีไซน์ใหม่ 2 ชั้น หน้ากว้าง 11.4 เมตร พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร โดยจะขยายจำนวนโครงการและบุกเพิ่มเข้าไปในทำเลใหม่ๆ นำร่อง 4 ทำเลแรก ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี – ศาลายา – บางนา และพหลโยธิน – วิภาวดี

“สำหรับตลาดอสังหาฯ แนวราบครึ่งปีหลัง เอพีมองว่ายังคงเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจและ มีแนวโน้มการเติบโตไปได้อีก สะท้อนจากยอดขายที่แข็งแกร่งจากสินค้าแนวราบเครือเอพี 5 เดือน ที่ผ่านมา มูลค่า 16,810 ล้านบาท เติบโต 23% จากปีก่อนหน้า และคิดเป็น 45% ของเป้ายอดขายแนวราบทั้งปี (38,000 ล้านบาท) การันตีถึงดีมานด์ลูกค้าที่มองหาบ้านแนวราบหลังใหม่ที่มีต่อเนื่องในทุกเซกเมนต์ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ยังท้าทาย โดยมั่นใจว่าจากโรดแมปการพัฒนาของกลุ่มทาวน์โฮมในปีนี้ ภายใต้ ‘Unlock Vertical Life พื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกเองได้’ จะเป็นการสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญอีกครั้งให้กับอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะการเปิดพรีเซลโครงการใหม่แบบบิ๊กล็อต ที่จะเข้ามากระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายบ้าน และยังเป็นการนำเสนอตัวเลือกแรกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าครอบครัวเมืองที่กำลังมองหาบ้านแนวราบหลังใหม่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ทุกทำเลทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างแน่นอน” นายเมธา กล่าวสรุปท้าย