มร.คริสเตียน โอลอฟเซน ประธานกรรมการฝ่ายจัดการศูนย์การค้า บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า “เมกาบางนาเป็นศูนย์การค้าแนวราบแบบครบวงจรแห่งแรกของไทย ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่นักช้อปและผู้บริโภคชาวไทยจะชื่นชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามาสัมผัส พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ซึ่งเราได้เตรียมกิจกรรมสนุกสนานและของขวัญพิเศษไว้มากมายสำหรับลูกค้า โดยในวันที่ 5 พฤษภาคม 2555 จะมีพิธีเปิดศูนย์การค้าอย่างเป็นทางการ โดย ฯพณฯ คลาส โมลิน เอกอัครราชฑูตสวีเดนประจำประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมกิจกรรมสนุกสนานตลอดทั้งวันรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2 หลังจากผลกระทบจากความท้าทายต่างๆในช่วงปีที่ผ่านมาเริ่มคลี่คลาย มั่นใจการเปิดตัวของเมกาบางนาจะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างอุตสาหกรรมค้าปลีกของไทยให้แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง” โดยจะใช้กลยุทธ์สื่อสารการตลาดอย่างครบวงจร ผ่านภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์และวิทยุ ชุด “Your Space, Your Happiness ที่ของคุณ ความสุขของคุณ” เริ่มออกอากาศในวันที่ 25 เมษายน 2555 นี้เป็นต้นไป พร้อมทั้งโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณา และกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ คริสเตียนกล่าวสรุป
เมกาบางนามีพื้นที่ 254 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบางนาตราด ก.ม. 8 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีจำนวนประชากรอาศัยอย่างหนาแน่นทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เป็นจุดที่เดินทางได้อย่างสะดวกสบายจากพื้นที่ข้างเคียงในรัศมี 30 กม. สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าจากแหล่งที่พักอาศัยที่หนาแน่นอื่นๆในชานเมืองของกรุงเทพฯตลอดจนจังหวัดใกล้เคียงในรัศมี 120 ก.ม. คาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการที่เมกาบางนาเฉลี่ย 110,000 คนต่อวัน หรือ 40 ล้านคนต่อปี พื้นที่ค้าปลีกรวมที่กว้างใหญ่กว่า 400,000 ตร.ม. ประกอบด้วยร้านค้ากว่า800 ร้าน ใน 9 เมกาโซน พื้นที่ทุกจุดได้รับการออกแบบให้ง่ายต่อการเดินช้อปปิ้งและมองหาร้านค้า พร้อมที่จอดรถฟรีกว่า 8,000 คัน
นอกจากนั้นเมกาบางนายังเป็นเมกามอลล์แห่งแรกในเมืองไทยที่รวมเอา 5 สโตร์หลัก ซึ่งต่างเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการที่เป็นรู้จักกันดี ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า โฉมใหม่, โฮมโปร, เมกา ซีนีเพล็กซ์ โดยเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และ อิเกียสโตร์ ห้างเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านระดับโลกแห่งแรกในเมืองไทยและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งร้านค้าขนาดใหญ่จากกว่า 20 แบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ Baby and Beyond, Cotton On, Mind Bridge, Misty Mynx, New Look, Payless Shoes, Royal Ivy Regatta, Stride Rite, The Icing Room, และอีกมากมาย นอกจากนั้น ยังมีร้านค้าจากผู้ประกอบการค้าปลีกเอสเอ็มอีจำนวนมากถึงกว่า 300 ร้าน โดยส่วนใหญ่เป็นร้านค้าแบบเปิด (open-plan) เพื่อความหลากหลายของร้านอย่างสมบูรณ์แบบ
แคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า “เรามุ่งคัดเลือกผู้ค้าชาวไทยและจากนานาชาติที่ดีที่สุดทั้งรายเล็กและรายใหญ่ เพื่อให้ร้านค้าต่าง ๆ ที่เมกาบางนามีความหลากหลาย ทั้งจากแบรนด์ดังของไทยและต่างประเทศที่ทุกคนรู้จัก รวมทั้งแบรนด์ใหม่ ๆ อีกมากมายที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่นี่และต่างได้รับการคัดสรรมาแล้วว่าเหมาะสม และมีศักยภาพที่จะประสบความสำเร็จในตลาดเมืองไทย เมกาบางนายังเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกที่บุกเบิกแนวทางใหม่ในการจัดโซนร้านค้า โดยไม่ยึดติดกับกฏเกณฑ์เดิมๆที่ต้องจัดตามประเภทสินค้าเป็นหลัก เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันต้องการประสบการณ์แบบ “here and now” มากขึ้น ทุกอย่างต้องพร้อมอยู่ตรงหน้าและทันใจ เราจึงใช้แนวคิดที่มุ่งให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก โดยจัดร้านค้าของแบรนด์ที่มีลูกค้าเป้าหมายกลุ่มเดียวกันมาไว้ด้วยกัน “ แคโรไลน์กล่าวเสริม